“บอร์ดอีอีซี” รับทราบความคืบหน้า 4 เมกะโปรเจกต์อีอีซี เผย “รฟท.” เจรจา “กลุ่มซีพี” ลงทุนรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน จบ 26 เม.ย.นี้ ขณะที่ กทท.ตัดสิทธิ์ “เอ็นซีพี” ประมูลโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 เหตุยื่นเอกสารไม่ครบ ทำให้ขาดคุณสมบัติ เดินหน้าเจรจากลุ่ม “จีพีซี” คาดเสนอครม.อนุมัติ พ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 วงเงิน 8.4 หมื่นล้านบาท ได้ตัดสิทธิกลุ่มกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี (NPC) จากการประมูลโครงการดังกล่าวแล้ว เนื่องจากกลุ่มเอ็นซีพียื่นเอกสารเข้ามาไม่ครบตามมาตรฐานที่คณะกรรมการกำหนด ทำให้ไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ
ทั้งนี้ คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะเจรจากับกลุ่มกิจการร่วมค้าจีพีซี (GPC) เกี่ยวกับซองข้อเสนอที่ 3 ซึ่งเป็นข้อเสนอทางเทคนิคและแผนการลงทุนโครงการ เช่น แนวคิดก่อสร้างท่าเทียบเรือการการก่อสร้าง และแผนการระดมทุน เป็นต้น โดยคาดว่าคณะกรรมการฯ จะพิจารณาข้อเสนอของเอกชนแล้วเสร็จในเดือนพ.ค. และเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในเดือนพ.ค.นี้เช่นกัน
“ทีโออาร์เขียนไว้ตั้งแต่ต้นว่า แม้ว่าจะมีเอกชนกลุ่มเดียวที่เข้ามาประมูลโครงการ ก็สามารถดำเนินการเจรจาต่อรองได้”เรือโทกมลศักดิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกชนทั้ง 2 กลุ่มที่ยื่นซองข้อเสนอประกวดราคาโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ได้แก่
1.กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ประกอบด้วย บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ,บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ในกลุ่มปตท. และบริษัท China Harbour Engineering Company Limited
2.กลุ่มกิจการร่วมค้า NPC ประกอบด้วย บริษัท นทลิน จำกัด , บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) ,บริษัท แอสโซซิเอท อินฟินิตี้ จำกัด ,บริษัท พีเอชเอส ออแกนิค ฮิลลิ่ง จำกัด และ China Railway Construction Corporation Limited
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) โดยที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รวม 4 โครงการ ประกอบด้วย
1.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน กลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CPH) เป็น “ผู้ยื่นข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทนที่ผ่านการพิจารณา” โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เข้าสู่ขั้นตอนการเจรจากับกลุ่ม CPH และได้ประชุมเจรจาร่างสัญญาร่วมลงทุนไปแล้วทั้งสิ้น 6 ครั้ง และประชุมคณะทำงานย่อยเพื่อเจรจาสัญญาไปแล้วทั้งสิ้น 5 ครั้ง โดยจะบรรลุข้อตกลงในการเจรจาภายใน 26 เม.ย.2562
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการต่อไป คือ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะจัดส่งร่างสัญญาร่วมลงทุนที่เจรจากับผู้ผ่านการประเมินให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา โดยสำนักงานอัยการสูงสุดจะแจ้งผลการตรวจพิจารณาโดยเร็วต่อ รฟท. และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จะเสนอผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้ กพอ. พิจารณา
จากนั้นจะเสนอต่อครม. และให้รฟท. ลงนามสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนที่ได้รับการคัดเลือก โดยคาดว่าขั้นตอนทั้งหมด จะแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.2562
2.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก หลังจากคณะกรรมการคัดเลือกฯเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอโครงการเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2562 มีผู้ยื่นข้อเสนอ 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส (BBS Joint Venture) 2.กลุ่ม Grand Consortium และ3.กลุ่มกิจการค้าร่วม บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร โดยขณะนี้ คณะกรรมการคัดเลือกฯอยู่ระหว่างการประเมินข้อเสนอ และคาดว่าจะพิจารณาข้อเสนอแล้วเสร็จ และประกาศผลผู้ผ่านการประเมินที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุดได้ภายในพ.ค.2562
3.โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 คณะกรรมการคัดเลือกฯได้เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอโครงการฯ และมีผู้ซื้อเอกสารจำนวน 18 ราย ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2562 มีเอกชนยื่นข้อเสนอจำนวน 1 กลุ่มคือ กลุ่มกิจการร่วมค้า ได้แก่ กัลฟ์และพีทีทีแทงค์ โดยขณะนี้คณะกรรมการคัดเลือกฯ อยู่ระหว่างการประเมินข้อเสนอ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเจรจากับภาคเอกชนได้ภายในเดือนเม.ย.2562
4.โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ท่าเทียบเรือ F คณะกรรมการคัดเลือกฯอยู่ระหว่างการประเมินข้อเสนอ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.2562