แค่คำว่า “พริตตี้” ก็ทำให้หนุ่ม ๆ จินตนาการภาพไปถึงไหนต่อไหนแล้วซินะ ความสดใส น่ารัก ขี้อ้อน เซ็กซี่ สายตาที่แสนจะยั่วยวน ที่นอกจากจะทำให้หนุ่ม ๆ หลงใหลตามกันไปเป็นแถวแล้ว
UBright วันนี้ มีโอกาสได้พูดคุยกับพริตตี้ขวัญใจหนุ่มไทยทั้งที บอกเลยว่านอกจากความสวยที่เธอมี เธอยังมีทัศนคติและความเก่งที่ดีเลิศมาก ๆ อีกด้วย เพราะการเป็นพริตตี้ที่ดีแค่ยืนสวยอย่างเดียวไม่ได้นะคะซิส เอาซิ๊…เราไปรู้จักเธอให้มากขึ้นอีกนิดกันดีกว่า รับรอง หลงรักมากกว่าเดิมแน่ ๆ เลย
ชื่อ – นามสกุล : นภัสนันท์ เบญจมาศ
ชื่อเล่น : ลิตา
อายุ : 24 ปี
วันเกิด : 1 สิงหาคม 2537
สัดส่วน : 34 23 36 (แซ่บสุด)
น้ำหนัก : 50 กิโลกรัม
ส่วนสูง : 172 เซนติเมตร
การศึกษา : มหาวิทยาลัยหอการค้า คณะนิเทศศาสตร์ สาขานวัตกรรมสื่อสารมวลชนการกระจายเสียงและแพร่ภาพ
สีที่ชอบ : สีแดง
สถานที่สุดโปรด : ทะเล
อาหารที่ชอบ : ข้าวไข่เจียว
สัตว์เลี้ยง : แมว
กิจกรรมที่ชอบทำ : ออกกำลังกาย
เข้ามาสู่วงการพริตตี้ได้อย่างไร
เริ่มจากที่ตอนแรกทำงานเป็นพนักงานเชียร์ขายของในห้างก่อน จากนั้นก็มีรุ่นพี่ที่รู้จักที่เขาเป็นพริตตี้ เขาเห็นแววของเราว่าน่าลองเข้ามาแคสมอเตอร์โชว์ เพราะเราเป็นคนสูง ซึ่งเมื่อก่อนพริตตี้ไม่ค่อยมีคนสูง ๆ เท่าไหร่ เราก็เลยลองมาแคสมอเตอร์โชว์ดู ตอนนั้นเพิ่งเข้ามหาลัยแรก ๆ พอแคสได้เราก็เลยทำงานอยู่ในวงการพนิตตี้ยาวมาเลยค่ะ
เข้ามาวงการพริตตี้ได้ไม่นานก็ติด Top 10 Pretty Thailand ทำอย่างไรถึงเข้ามาเร็วแบบก้าวกระโดดได้ขนาดนี้
ใช่ค่ะ ทำงานเป็นพริตตี้สองปี ปีแรกแค่ได้ตำแหน่ง TOP10 ส่วนในปีถัดมาก็ได้เป็นอันดับสองค่ะ ตอนแรกที่เข้ามาทำงาน จริงๆ พริตตี้ไม่ใช่งานที่ใฝ่ฝันนะคะ แต่ต้องทำงานเพราะว่าเราต้องหาเงินเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงน้อง เราเป็นคนที่มีค่าใช้จ่ายเยอะ และเราก็เห็นว่าพริตตี้เป็นอีกหนึ่งงานที่ได้เงินเยอะมาก ๆ เราก็เลยรู้สึกว่า เราต้องมีความพยายามที่จะก้าวกระโดดและก็พัฒนาตัวเองให้มากขึ้น การเป็นพริตตี้ คนจะรู้จักได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่ที่ความเฟรนด์ลี่ของเรา อยู่ที่การวางตัวของเรา เช่น เวลาไปงานมอเตอร์โชว์ ก็จะมีช่างภาพมาขอถ่ายรูป บางคนเขาก็อาจจะยืนให้ถ่ายแค่ในรอบยืนของเขา แต่ด้วยความที่ช่างภาพบางคนมาไม่ตรงรอบ ยิ่งเป็นช่างภาพเราที่รู้จัก หรือช่างภาพที่อยากถ่ายเรามากจริง ๆ เราก็จะออกไปเป็นแบบให้เขา ไปทำความรู้จักเพิ่ม และอย่างตัวลิตาเองเวลาออกไปถ่ายกับใครลิตาจะขอบคุณพี่ ๆ ช่างภาพตลอด ขอบคุณที่มาถ่ายให้นะคะ ขอบคุณที่รอเจอนะคะ เป็นความรู้สึกว่าเราให้ใจเขา ให้ใจกับคนที่เขาชอบเรา
คนภายนอกเขาจะมองวงการนี้ในแง่ลบบ้าง เราคิดยังไงในฐานะที่เราเป็นพริตตี้
ถ้าถามว่าลิตาคิดยังไง เราก็ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เขาคิดมันผิดนะคะ ทุกคนถูกเลี้ยงมาก็ต่างกันแล้ว เราไม่สามารถไปบังคับความคิดของเขาได้ หรือให้ไปบอกเขาว่าพริตตี้มันเป็นอาชีพที่ดีนะ เพราะว่าความคิดเขาก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว แต่ความคิดของลิตาก็คือใครจะมองภาพรวมของพริตตี้ยังไง แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เราเป็นคือสิ่งที่ทำให้คนมองเราแบบนั้นมากกว่า สมมุติเวลาเราไปไหนเราบอกเขาว่าเราเป็นพริตตี้ เขาก็จะมองเราในแง่มุมหนึ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าพอเขาได้เห็นการแต่งตัวของเรา การพูดของเรา มุมมองความคิดของเรา หรือว่าสิ่งที่เราแสดงออกไปมันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด มันก็สามารถเปลี่ยนความคิดเขาได้เอง จริง ๆ แล้วการที่มองอาชีพโดยรวมว่าเป็นยังไง มันไม่เกี่ยวว่าคนที่เขาจะมองเราว่ายังไง มันอยู่ที่เราวางตัวมากกว่า
เรามองเห็นข้อดีอะไรของวงการนี้
อาชีพนี้เป็นอาชีพที่นอกจากจะได้เงินเยอะ ยังทำให้ลิตาได้รู้จักคนเยอะขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือคนอื่น ๆ และยังทำให้คนอื่นรู้จักเราเพิ่มมากขึ้น หลาย ๆ คนเห็นเราเป็นไอดอล หรือเข้ามาชื่นชอบเรา ติดตามผลงานของเรา คนเหล่านี้ตามเรามาจากงานพริตตี้ล้วน ๆ เลย อีกอย่างวงการนี้ทำให้ลิตามีงานเพิ่มมากขึ้น อย่างรายการ The Price is Right Thailand เป็นรายการประจำเลยตั้งแต่ซีซั่นแรกจนตอนนี้ซีซั่นที่ 6 แล้ว ลิตาก็ยังมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของรายการอยู่ค่ะ
คิดว่าจะอยู่ในวงการนี้ไปอีกกี่ปี
ณ ตอนนี้ก็ยังอยู่ต่อไปอีกเรื่อย ๆ นะคะ แต่ก็มีแพลนอาชีพของเราไว้ ก็อาจจะอยู่ได้เท่าที่อยู่ได้ ถ้าอาชีพที่เราฝันไว้จริง ๆ ประสบความสำเร็จ ก็อาจจะอยู่ในวงการพริตตี้อีกแค่ไม่กี่ปีค่ะ
อาชีพในฝันที่เราอยากไปทำต่อจากนี้
ลิตากับแม่อยู่ไกลกันมาก อยู่คนละประเทศ อาชีพในฝันของลิตาคืออยากจะเปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ อยากจะให้เป็นอาชีพที่สามารถให้คุณแม่กลับมาอยู่เมืองไทยได้ด้วย แล้วก็อยู่กับลิตาได้ด้วย เป็นอาชีพที่เลี้ยงตัวเองได้ ก็อยากจะเปิดร้านอาหารให้คุณแม่ และตัวลิตาก็เป็นคนที่ชอบการแต่งตัว ก็อยากจะมีร้านเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง มีแบรนด์เป็นของตัวเองค่ะ
ตอนนี้ยังเรียนอยู่ แบ่งเวลาเรียนกับเวลาทำงานยังไง
อย่างที่บอกว่าลิตาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยหอการค้านะคะ มหาลัยจะส่งเสริมเรื่องการทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะให้ความสนใจเรื่องเรียนมากน้อยแค่ไหน สมมุติว่าลิตามีงานวันนี้ ลิตาก็จะคุยกับทางอาจารย์ประจำวิชาก่อนเลย ว่าวันนี้จะมีงานแบบนี้ค่ะ มีขาดนะคะ แล้วเราก็ตามงาน แต่ที่สำคัญเลยค่ะ เรื่องเรียนถ้าเราจะผ่านไปได้ด้วยดีเราจะต้องมีเพื่อนที่ดี แล้วลิตาโชคดีด้วยที่มีเพื่อนมหาวิทยาลัยที่ดี ทุกอย่างก็เลยไปด้วยกันได้สบายมาก
อยากบอกอะไรกับคนที่มองพริตตี้ว่าแค่มายืนสวย ๆ ก็ได้เงินเยอะ
อย่างที่ลิตาเคยบอกว่า สิ่งที่เขาคิดก็ไม่ผิดนะคะ ว่าอาชีพพริตตี้ก็แค่มายืนสวย ๆ แต่การที่จะเป็น พริตตี้ที่ดี หรือจะมาอยู่จุดข้างบนสูงสุดของพริตตี้มันไม่ได้ง่ายเลย ทุกอย่างมันต้องมีการพัฒนาตัวเอง อาชีพพริตตี้เป็นอาชีพที่มีการแข่งขันสูงมาก เพราะเดี๋ยวนี้คนทำหน้ามาสวยหน่อย ก็บอกว่าตัวเองเป็นพริตตี้แล้ว ได้ยินนะตอนนั้นเขาบอกว่าตัวเองเป็นพริตตี้แล้วก็ใช้หน้าตาความสวยเข้ามา แต่ว่าจริง ๆ แล้วการที่จะเป็นพริตตี้ที่มีคุณภาพ ต้องอาศัยการฝึกฝนหลาย ๆ อย่าง ต้องมีความสามารถหลายอย่าง เพราะว่าพริตตี้ยืนอย่างเดียวก็ไม่ได้นะคะ เราต้องมีสกิลในการยืนให้สวย ต้องเดินให้บุคลิกดูดี เพราะเราอยู่บนส้นสูงอย่างต่ำต่อวันก็ 8 ชั่วโมงแล้ว อีกอย่างต้องมีสกิลในการพูด ไม่ว่าจะเป็นพูดพรีเซนต์สินค้า หรือพูดแนะนำตัวเอง ทุกอย่างต้องมีสกิล มีการฝึกฝน มีการพัฒนาไปเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงบอกได้เลยว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ไม่ได้ใช้แค่หน้าตาอย่างเดียวยังต้องใช้ความสามารถ อย่างถ้าเราเป็นคนจ้างงาน ก็ต้องอยากได้พริตตี้ที่มีความสามารถ ต้องมีสมองในการทำงาน ไม่ใช่แค่ยืนสวยอย่างเดียว ลิตาคิดว่าทุก ๆ อาชีพต้องมีการฝึกฝนต้องมีการพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ อีกอย่างเราต้องรักษาต้นทุนในความสวยของเรา เราอาจจะต้องใช้ครีมบำรุงผิวมากกว่าคนอื่น ๆ เพราะเราต้องอยู่กับแฟลชอยู่กับแสงตลอดเวลา เราอาจจะไปกินอาหารอร่อย ๆ ได้ไม่เท่าคนอื่นเพราะเราต้องดูแลรูปร่างของเรา อาจจะเป็นต้นทุนที่ต่างจากคนอื่น แต่สุดท้ายการพัฒนาตัวเองก็คือต้นทุนที่เราต้องมีเหมือนกับอาชีพอื่น ๆ
ก่อนจากกัน ลิตายังฝากขอบคุณทุก ๆ คนที่ติดตาม และคอยเป็นกำลังใจให้เธอตลอดมา #UBright เองก็จะขอเป็นตัวแทนของทุกคน เป็นกำลังใจและคอยติดตามผลงานของลิตาไปเรื่อย ๆ เลยนะ ความสดใสความน่ารัก ความเซ็กซี่ของเธอ ทำให้เราตกหลุมรักได้ตลอดเวลาเลย
เปิดวาร์ปความแซ่บ
IG : @lita.naphatsanan
อ่านเพิ่มเติม
