“เขาดินวนา” หรือสวนสัตว์ดุสิต สถานที่ยอดฮิตของเด็ก ๆ ทั้งยังเป็นสวนสัตว์ในความทรงจำของคู่รักและผู้ใหญ่อีกหลาย ๆ คนอีกด้วย หลังจากมีประชาสัมพันธ์ออกมาว่าทางสวนสัตว์ดุสิตจะเปิดให้บริการจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561 นี้เท่านั้น ก่อนจะย้ายไปเปิดยังสถานที่แห่งใหม่ บริเวณคลอง 6 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ในเร็ว ๆ นี้
เราลองไปย้อนวันวานความทรงจำกันหน่อยดีกว่า…
สวนสัตว์กลางกรุงที่แรกของประเทศ
สวนสัตว์ดุสิต เป็นสวนสัตว์และสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย มีพื้นที่ประมาณ 118 ไร่ ประกอบไปด้วยสัตว์ป่าหายากและสัตว์ป่าเกือบสูญพันธุ์นานาชนิดอีกประมาณ 2,000 ตัว
โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นตั้งแต่พ.ศ. 2438 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกลงพรรณไม้นานาชนิด สร้างขึ้นเป็นสวนพฤกษชาติ สำหรับส่วนพระองค์ เรียกว่า วนา รวมอาณาเขตส่วนนี้ทรงโปรดเรียกว่า เขาดินวนา โดยในขั้นต้นพระองค์ให้สร้างขึ้นสำหรับเป็นที่ประพาสทรงพระเกษมสำราญส่วนพระองค์และข้าราชบริพารฝ่ายในก่อน ดังนั้นสวนดุสิตหรือเขาดินวนาจึงเป็นส่วนหนึ่งในเขตพระราชฐานพระราชวังดุสิต
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงมีพระราชดำริที่จะทำนุบำรุงสวนแห่งนี้ให้กว้างขวางและดีกว่าที่เป็นอยู่และเปิดให้ประชาชนมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจด้วย
ภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองพ.ศ. 2475 แล้ว คณะรัฐบาลจอมพลป. พิบูลสงคราม จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานสวนดุสิตให้ดำเนินการจัดทำเป็นสวนสาธารณะ และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในเวลานั้นพระองค์เจ้าทิพอาภาเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้พระราชทานอนุมัติในนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลรัชกาลที่ 8 ให้เทศบาลนครกรุงเทพรับบริเวณสวนดุสิตหรือเขาดินวนาสนามเสือป่าและสวนอัมพรมาจัดเป็นสวนสาธารณะได้
จากนั้นทางเทศบาลนครกรุงเทพได้จัดการย้ายกวางดาวและสัตว์ชนิดต่าง ๆ มาจากสวนอัมพรและย้ายสัตว์บางชนิด เช่น จระเข้ ลิง จากสวนสราญรมย์มาไว้ที่เขาดินวนาและได้ขอให้ทางสำนักพระราชวังส่งช้างหลวงมาให้ประชาชนได้ชมในวันอาทิตย์และเมื่อปรับปรุงสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วทางเทศบาลนครกรุงเทพจึงเปิดสวนดุสิตให้ประชาชนเที่ยวชม และพักผ่อนหย่อนใจได้เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2481 และให้เรียกสวนดุสิตนี้ว่าสวนสัตว์ดุสิต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสวนสัตว์แห่งแรกในประเทศไทย
มีอายุที่ยาวนาน
จากประวัติที่กล่าวมาข้างต้นก็จะเห็นได้ว่าสวนสัตว์ดุสิตได้ถูกจัดเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2481 จนถึงปัจจุบันนี้ก็เกือบ 80 ปี จึงถือว่าเป็นสวนสัตว์กลางกรุงแห่งแรก และเป็นสวนสัตว์ที่มีอายุยาวนานที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นสถานที่เดทแรกของเหล่าคู่รัก
ด้วยบรรยากาศภายในที่ให้ความร่มรื่น พื้นที่กว้างขวาง ประกอบไปด้วยสัตว์นานาชนิดที่หาดูได้ยาก การเดินทางที่แสนจะสะดวกสบาย กิจกรรมถีบเรือจักรยานนาวา เพื่อชมทัศนียภาพรอบทะเลสาบ รับลมที่แสนจะเย็นสบาย จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คู่รักมักมาทำร่วมกัน เป็นโมเม้นท์ที่น่ารักสุด ๆ
สถานที่ทัศนศึกษาสุดฮิต
นอกจากสัตว์นานาชนิดที่มีมากกว่า 2,000 ตัว ก็ยังมี “หลุมหลบภัย” ที่สร้างขึ้นช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากการโจมตีของฝ่ายพันธมิตรจริง ๆ อีกทั้งภายในยังมีการจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่ายและข้อมูลเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งโลกให้เราได้เรียนรู้ด้วย สถานที่แห่งนี้จึงเหมาะมาก ๆ ที่จะเป็นสถานที่ทัศนศึกษายอดฮิตของเด็ก ๆ
สัตว์มหัศจรรย์
ภายในยังรวบรวมสัตว์หายาก และน่ารักไว้ที่นี่อย่างมากมาย เช่น
“แม่มะลิ” ฮิปโปโปเตมัส ที่มีอายุถึง 50 กว่าปี ที่ถูกนำมาจากสวนสัตว์ทีลเบิร์ก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งแต่อายุเพียง 1 ขวบ ถือว่าเป็นฮิปโปฯ มีอายุยืนที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นจุดเด่นของสวนสัตว์ดุสิตที่บอกได้ว่าใครไม่เคยเห็น ถือว่ามาไม่ถึงนะ
“เก้งเผือก” เก้งขนสีขาวสะอาด ที่มีรายงานการพบที่เดียวในโลกคือที่ประเทศไทย
“ค่างห้าสี” ค่างที่มีสีสันสะดุดตา และจัดว่าเป็นค้างที่สวยงามที่สุดในโลก ตามตัวจะมีสีตัดกันถึง 5 สี ตัวและหัวสีเทา แต่ตรงหน้าผากมีสีเทาดำออกแดง หนวดเคราสีขาว หางและก้นสีขาว ผิวหน้าเหลือง
“ละมั่งพันธุ์ไทย” ละมั่งเพศผู้ตัวเต็มวัยมีขนคอยาว สัตว์ป่าสงวนที่ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งปัจจุบันสามารถพบเห็นได้แค่ที่สวนสัตว์ดุสิตที่เดียว
“แพนด้าแดง” ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว เพราะเสียชีวิตไปตามอายุขัย
สวนสัตว์ที่มีความเก่าแก่แห่งนี้ แฝงไปด้วยความทรงจำและรอยยิ้มเสมอเมื่อนึกถึง เพราะสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวของความสุขที่เราได้ใช้เวลาร่วมกันกับคนที่เรารักนั่นเอง
ขอบคุณรูปภาพข้อมูลจาก : dusit.zoothailand
