ช่วงนี้หลายคนคงได้เห็นข่าวนักร้องสาวที่เดินทางไปศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี แล้วเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงจนเกือบเสียชีวิต และสภาพร่างกายของเธออาจไม่กลับมาสมบูรณ์เหมือนในอดีต หลายคนคงมีคำถามตามมาว่า เคสแบบนี้ผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากสถานบริการทางการแพทย์ได้หรือไม่
เสริมแล้วเสียใน “เกาหลี” ฟ้องร้องได้ไหม
สำหรับการไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี ผู้เสียหายจะต้องเดินทางไปฟ้องร้องที่ประเทศเกาหลี ซึ่งจำเป็นต้องมีเวลาและทุนทรัพย์เพียงพอ บางรายที่เกิดความเสียหายจากการศัลยกรรมจึงเลือกที่จะนิ่งเฉยแทน ส่วนการฟ้องร้องบริษัทเอเจนซี่ก็มีความเป็นไปได้น้อย เพราะ แพ็คเกจทัวร์ศัลยกรรมนั้น อาศัยช่องว่างของกฏหมาย ตั้งขึ้นแบบเดียวกับธุรกิจนำเที่ยวทั่วไปที่กำกับโดย พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เพียงอย่งเดียว โดยไม่รับการควบคุมเช่นเดียวกับคลินิกศัลยกรรม ซึ่งต้องอยู่ภายใต้กฏหมายวิชาชีพเวชกรรม และกฏหมายสถานพยาบาล ทำให้ธุรกิจนำเที่ยวแพ็คเกจทัวร์ศัลยกรรมนั้นกระทำได้ง่าย ผู้บริโภคที่ใช้บริการแพ็คเกจทัวร์ศัลยกรรมในต่างประเทศ จะไม่ได้รับความคุ้มครองดังเช่นการทำศัลยกรรมในประเทศไทย เพราะผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวไม่มีหน้าที่ต้องควบคุมดูแลการทำศัลยกรรมดังกล่าว เนื่องจากกฎหมายธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ไม่ได้กำหนดไว้
ส่วนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ก็มีอำนาจกำกับดูแลเรื่องทั่วๆ ไป ที่ไม่ซ้ำหรือขัดกับกฏหมายธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เท่านั้น
ศัลยกรรมแล้วพังต้องทำอย่างไร
ส่วนใครที่ทำศัลยกรรมในประเทศไทย แล้วเกิดความเสียหาย ต้องการฟ้องร้องสถานพยาบาลและแพทย์ให้ดำเนินการ ดังนี้
- แจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจในพื้นที่
- พบแพทย์เฉพาะทางที่โรงพยาบาล เพื่อให้ตรวจอาการที่เกิดขึ้นจากการรับบริการจากคลินิกนั้นๆ และให้แพทย์ประเมินความเสียหาย ตลอดจนค่ารักษาพยาบาลหากต้องรักษาต่อเนื่อง
- รวบรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด เรียกร้องให้ทางคลินิกรับผิดชอบ
- ทำหนังสือแจ้งเรื่องร้องเรียนไปยังกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้ตรวจสอบมาตรฐานและการให้บริการของสถานบริการเสริมความงามแห่งนั้น
- หลังจากนั้นทำหนังสือขอให้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจัดส่งเป็นจดหมายลงทะเบียนแนบไปรษณีย์ตอบรับถึงผู้ประกอบการสถานพยาบาลเสริมความงาม หากตกลงกันไม่ได้ ผู้ได้รับความเสียหายมีสิทธิในการฟ้องศาลเป็นคดีผู้บริโภคได้ต่อไป
ทั้งนี้ การฟ้องร้องทางแพ่งต้องดำเนินการภายใน 1 ปี ก่อนที่คดีจะหมดอายุความ
เอกสารเตรียมให้พร้อม
หลักฐานการขอใช้บริการ ใบเสร็จการชำระค่าใช้บริการ ภาพถ่ายก่อนและหลังการใช้บริการอย่างน้อยไม่เกิน 6 เดือน หลักฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรมของผู้ให้บริการ ประวัติการรักษาของผู้ร้อง หลักฐานการประเมินค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมจากแพทย์ บันทึกประจำวันที่แจ้งความตำรวจไว้
ร้องเรียนให้ถูกที่
- สายด่วนคุ้มครองผู้บริโภคด้านบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เบอร์โทรศัพท์ 021937999
- ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ โทรศัพท์ 025918844
- สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สายด่วน 1166 กรณีผู้บริโภคต้องการให้ช่วยฟ้องคดี
- ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โทรศัพท์ 022483737
หากใครคิดจะทำศัลยกรรม ขอให้ศึกษาข้อมูลให้ละเอียด รวมถึงต้องยอมรับความเสี่ยงจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามมาด้วยนะคะ
ข้อมูล :
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
สำนักอนุญาโตตุลาการ
มาตรการทางกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค : ศึกษากรณีทัวร์ศัลยกรรมที่ประเทศสาธารณรัฐเกาหลีหลักสูตร: นิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มวิชากฎหมายธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม