ซัมเมอร์แบบนี้ถือว่าเป็นฤดูกาลของ ‘รองเท้าแตะ’ อย่างแท้จริงเลยนะคะ เพราะแน่นอนว่ามันช่วยให้เท้าของเรารู้สึกโล่ง โปร่ง เย็นสบาย ไม่เหนอะหนะจากเหงื่อไคลบริเวณเท้า แต่แม้จะสวมใส่สบายแค่ไหน ก็มีผู้เชี่ยวชาญออกมาแสดงความกังวลค่ะว่า การสวม ‘แตะ’ อาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการมีปัญหาสุขภาพขาและเท้าได้!
ดร. คามิลล่า ลอง (Dr. Camilla Long) จาก Wake Forest Baptist Medical Center ในนอร์ธแคโรไลนา ได้แชร์เรื่องราวของผู้ป่วยที่มาปรึกษาปัญหาสุขภาพกับเธอ โดยมีสาเหตุมาจาก ‘การสวมรองเท้าแตะ’ เนื่องจากรองเท้าแตะส่วนใหญ่มักไม่โค้งรับบริเวณเนินปลายเท้าของเรา ทำให้เท้าเครียดเกร็ง ที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บหน้าแข้ง มีปัญหาเกี่ยวกับเอ็นร้อยหวาย และอาการเจ็บปวดที่บริเวณหลัง อีกทั้งการสวมรองเท้าแตะยังสามารถทำให้วิธีการเดินของเราเปลี่ยนไปซึ่งจะทำให้เกิดการปวดหลังมากขึ้นได้
นอกจากนี้ การสวมรองเท้าแตะนานๆ อาจก่อให้เกิดอาการของ ‘โรครองช้ำ’ (plantar fasciitis) ซึ่งเป็นโรคที่ยังไม่มีวิธีการรักษาโดยเฉพาะตามมาด้วย โดยเกิดจากการอักเสบบริเวณพังผืดใต้ฝ่าเท้า ซึ่งเอ็นที่รองรับส่วนโค้งของเท้าจะถูกทำให้เครียดเกร็ง ฉีก บวม และทำให้ปวดมากนั่นเองค่ะ
ดังนั้น ดร. คามิลล่า จึงแนะนำว่าเมื่อไรก็ตามที่ต้องขับรถ วิ่งหรือเดินเป็นระยะทางไกลๆ ไม่ควรสวมเพียงรองเท้าแตะเท่านั้น เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้ต้องการการซัพพอร์ตเท้าได้อย่างดี ควรเปลี่ยนเป็นรองเท้าหุ้มส้น หรือผ้าใบที่สวมใส่สบาย กระชับและช่วยซัพพอร์ตเท้า ส้นเท้า และข้อเท้าของเราได้อย่างดี หรือเป็นรองเท้าสำหรับการเดินและวิ่งโดยเฉพาะเลยก็ยิ่งดีค่ะ
อย่างไรก็ตาม เราคงไม่ถึงกับ ‘ห้าม’ ไม่ให้คุณใส่รองเท้าแตะเลยหรอกนะคะ เพียงแต่อย่าใส่เป็นเวลานาน สวมใส่อยู่บ้านชิลๆ ก็ได้ไม่ว่ากัน แต่ถ้าเมื่อไรต้องออกไปข้างนอก เดินช้อปปิ้ง หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องมีการเดินมากๆ ก็เปลี่ยนเป็นรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าที่ซัพพอร์ตเท้าหน่อยจะดีกว่าน้า
ที่มา: www.coventrytelegraph.net
อ่านบทความไลฟ์สไตล์อื่นๆ คลิก
ติดตามข่าวอื่นที่คุณสนใจ คลิก