Big Mountain Music Festival – มออออ เมื่อเข้าใกล้ปลายปี หนึ่งเทศกาลที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยสำหรับคนรักเสียงเพลงคือ เทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ของประเทศไทยที่รวบรวมศิลปินมาไว้ในงานมากมายแบบไม่จำกัดค่ายอย่าง “BIG MOUNTAIN” หรือชื่อเต็ม ๆ ของงานคือ “PEPSI PRESENTS BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL” เทศกาลที่มีผลตอบรับเป็นอย่างดีมาตลอดจนจัดงานเทศกาลได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปีที่ 11
งานเทศกาลดนตรีที่ค่อย ๆ เติบโตมาอย่างต่อเนื่องและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาตลอดจนถึงปีที่ 10 ครบ 1 ทศวรรษ ของงานเทศกาลดนตรี BIG MOUNTAIN การเติบโตเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2553 ที่เป็นการแจ้งเกิดของงานเทศการ จนประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน ก่อนที่จะไปสนุกแบบสุดเหวี่ยงกับเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดของไทยอย่าง BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL เรามาลองย้อนรอยความสนุกของงานเทศกาลนี้กันอีกสักครั้ง กว่าจะมาถึง BIG MOUNTAIN ครั้งที่ 11 ต้องผ่านอะไรมาบ้าง
BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 1 (5-6 กุมภาพันธ์ 2553)
BIG MOUNTAIN เป็นจุดเริ่มต้นของเทศกาลดนตรีหลาย ๆ งานที่เกิดขึ้นมาภายหลังจากการเกิดเทศกาลนี้ขึ้นมา BIG MOUNTAIN เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 – 6 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ โบนันซ่า เขาใหญ่ โดยมีศิลปินจากทุกค่าย ทุกสังกัด ทุกแนวเพลงมาร่วมสร้างสีสันบนเวทีคอนเสิร์ตหลากหลายสไตล์ จนเกิดปรากฏการณ์การชมคอนเสิร์ตที่มันที่สุด บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ และเวทีที่ใหญ่ที่สุด กับศิลปินมากที่สุด แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย การเปิดศักราชของงานเทศกาลดนตรีครั้งนี้ประสบความสำเร็จไปด้วยยอดผู้เข้าร่วมงานถึง 25,000 คน ซึ่งภายในงานมีทั้งคนรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษา ไปจนถึง First Jobber และคนทำงานมาสนุกด้วยกันบนพื้นที่แห่งเสียงเพลงขนาดใหญ่ครั้งแรกของไทย
BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 2 (10-11 ธันวาคม 2553)
กลับมมาอีกครั้งในปีเดิมแต่ความยิ่งใหญ่ที่ไม่เหมือนเดิมกับการเพิ่มทัพศิลปินเกือบถึง 200 วง บนเวทีเดิมที่คุ้นเคยพร้อมความสนุกที่เพิ่มมากขึ้น อย่าง Main Stage(Forest Stage), Cow Stage(Mountain Stage), District9, Dancing Tree,เวทีใหม่อย่าง Durian Stage ที่จัดระบบเสียง Surround 360 องศา ให้สัมผัสกันได้ทุกมิติเช่นเดียวกับหนามทุเรียน นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มลูกเล่นของงานเข้าไปด้วยการเพิ่ม ผับอโคจร ที่เปลี่ยนวัฒนธรรมการดูคอนเสิร์ตไปแบบไร้กำแพงและฟอร์มใด ๆ เพราะที่นี่ทุกคนสนุกปลิ้นได้อย่างเท่าเทียม พร้อมเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกอาทิ Toilet City ที่ทำให้ BIG MOUNTAIN เป็นเทศกาลดนตรีที่มีห้องนำเยอะที่สุดในโลก ป้ายรถเมล์หน้าเด้ง เพื่อให้เดินทางกันได้อย่างสะดวกและสบายใจ อีกสิงหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาและได้รับความสนใจไม่แพ้กันเลยคือ การเริ่มจัดประกวดชิงแชมป์ข้าวไข่เจียวครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องมาจากเมนูที่พูดได้เลยว่าถ้าไม่ได้กินก็เหมือนกับยังมาไม่ถึง BIG MOUNTAIN จนกลายเป็นกิจกรรมประจำที่ได้รับความสนใจมาจนปัจจุบัน
BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 3 (10 – 11 ธันวาคม 2554)
หลังจากประสบความสำเร็จจาการจัดเทศกาลถึงสองครั้งซ้อน ด้วยจำนวนผู้ร่วมงานถึง 65,000 คน และศิลปินกว่า 400 วง ทางผู้จัดงานอย่าง เกเรทีม ผู้จัดที่แจ้งเกิดให้กับเทศกาลได้ออกมาเฉิดฉาย ก็เกิดปิ๊งไอเดียดีที่จะจัดเทศกาลดนตรีเล็ก ๆ อย่าง Chick Mountain Music Festival…มัน ไก่ มาก เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2554 ณ ค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหาร เขาชนไก่ ในแบบ Millitary Theme Park Music Festival และงานนี้ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี เป็นการสร้างกระแสเตรียมความพร้อมก่อนจะก้าวไปสู่เทศกาลดนตรี Big Mountain Music Festival#3 ได้อย่างยิ่งใหญ่
BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 4 (8-9 ธันวาคม 2555)
ในปีที่ 4 Big Mountain Music Festival กลับมาใน Theme ของเทศกาลดนตรีที่รวบรวมทุกเผ่าพันธุ์ เพื่อตอกย้ำความมุ่งหวังที่จะนำเสนอเทศกาลดนตรีที่ไร้พรมแดนทั้งสังกัด แนวเพลง และสัญชาติ ซึ่งที่ผ่านมา นอกจากศิลปินไทยแล้ว BIG MOUNTAIN ยังได้รับความร่วมมือจากศิลปินและประเทศเพื่อนบ้านทั้งในทวีปเอเชียและส่วนต่าง ๆ ของโลก เช่น ญี่ปุ่น (DJ USUI,Rieko,People Jam), มาเลเซีย (Hello, Is This The Band?), เยอรมนี (Diva Int.)ฯลฯ ด้วยความสมัครใจของศิลปินเองและองค์กรต่าง ๆ ที่สนับสนุน
และในปีนี้เอง ซีรีส์ฮอร์โมนวัยว้าวุ่น ที่ได้รับความนิยมก็ได้มาถ่ายฉากจบในงานครั้งนี้ด้วย
BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 5 (7 – 8 ธันวาคม 2556)
ในปีนี้งานเทศกาลดนตรี BIG MOUNTAIN ได้กลายเป็นเทศกาลที่ในชีวิตวัยรุ่นไทยต้องได้มาสักครั้งหนึ่ง เพราะในครั้งนี้ได้มีการเพิ่มแนวเพลงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งไทยและเทศ เช่น Superband , 2 Day Ago Kids, 3.2.1. Kamikaze, Armchair, Abuse The Youth, Austra (UK), Bedroom Audio, Big Ass, Bomi (JP), Boom Boom Cash ฯลฯ ภายใต้ Theme “มาเล่นกันเถอะ” ที่มาพร้อมกับกระแสความแรงจากภาพยนตร์ พี่มากพระโขนง
BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 6 (6 – 7 ธันวาคม 2557)
ครั้งที่ 6 มาใน Theme งานเดียวรักษาได้ทุกโรค มาในแนวความคิดของการรักษาความทุกข์ด้วยเสียงดนตรี ให้ลืมความวุ่ววายในโลกปกติแล้วมาหยุดพักสนุกไปด้วยกันกับเวทีต่าง ๆ ทั้ง Harn Stage เวทีห่าน : รวมสายพันธุ์ดนตรีที่ บ้า! มัน! อาทิ Moderndog, Cocktail, The voice, Greasy Café, Lomosonic, Apartment Khunpa, Sweet mullet, Flure, Gene Kasidit, The mousses, The yers ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีเวที Ferris Wheel Stage หรือ เวทีชิงช้าสวรรค์ เวทีที่ใหญ่ที่สุดและสามารถจุผู้ชมได้มากที่สุดในงาน BIG MOUNTAIN และต่อด้วย “เวทีปากช่อง” ที่ได้รับการออกแบบใหม่ เป็นเวทีที่ไม่จำกัดแนวเพลงของศิลปินทั้งไทยและเทศ หน้าใหม่ หน้าเก๋า และ น่าเกิด พร้อมสร้างแรงบันดาลใจจากวงดนตรีที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังมีเวที “Cow Stage” และ “ผับอโคจร” ที่มอบความสนุกสนานให้กระหน่ำกันเหมือนเดิม และตบท้ายด้วย “หลังคาแดง” ที่เป็นดังศูนย์ศิลปะบำบัด จากดนตรีชาวยิปซีพร้อมพวกพ้อง
BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 7 (19 – 20 ธันวาคม 2558)
เป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่ BIG MOUNTAIN ไม่ได้จัดที่ BIG MOUNTAIN แต่ย้ายสถานที่ไปอยู่ที่ แก่งกระจาน คันทรีคลับ จ.เพชรบุรี ภายใต้ชื่องาน “มหกรรมโจ๊ะหมู่บูชาเพลงไทย” ถึงแม้จะย้ายสถานที่ไปแต่บรรยากาศในงานยังคงความสนุกสนานของเทศกาล BIG MOUNTAIN ไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ท่ามกลางขุนเขาและ 9 เวทีน้อยใหญ่ที่ยังวางผังไว้ให้เดินได้อย่างสะดวก ภานในงานยกขบวนศิลปินมาโจ๊ะด้วยกัน ตั้งแต่รุ่นใหม่อย่าง Thaitanium ไปจนถึง ถั่วแระ เชิญยิ้ม และ รำวงสมาคมศิลปินตลก ถึงรุ่นใหญ่ระดับไวพจน์ เพชรสุพรรณ (ศิลปินแห่งชาติ) กันเลยทีเดียว
BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 8 (10 – 11 ธันวาคม 2559)
เทศการในครั้งนี้ยังคงจัดอยู่ที่ แก่งกระจาน คันทรี คลับ แต่ในครั้งที่ 8 นี้จัดอยู่ภายใต้ Theme “วัวก็คือวัว” และได้มีการประกาศลดเวทีลงเหลือเพียง 8 เวที เพื่อความเข้มข้นที่มากขึ้น แต่ก็ได้มีเหตุการณ์ความสูญเสียของคนไทยทั้งชาติที่เกิดขึ้นในเดือน ตุลาคม จึงได้ยุติการจัด BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 8 ลง
BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 9 (8 – 9 ธันวาคม 2561)
หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งความอาลัย BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL ก็ได้ย้ายทัพจาก แก่งกระจาน คันทรี คลับ จ.เพชรบุรี กลับมาที่เขาใหญ่เหมือนเดิมแต่เพิ่มความยิ่งใหญ่ให้มากกว่าเดิมภายใต้ Theme “มัน เวอร์ มาก” จัดขึ้น 2 วัน 2 คืนอีกครั้ง เทศกาลในครั้งนี้รวบรวมความเวอร์ด้วยทัพศิลปินที่เยอะเวอร์กว่า 200 ชีวิต และยังได้ศิลปินหมอลำที่กำลังเป็นที่นิยมจากบทเพลง “เต่างอย” มาร่วมสร้างสีสันและความสนุกให้กับเทศกาล
อีกทั้งยังมีหนึ่งสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาในปีนี้คือเวทีใหม่อย่าง HIPHOP STAGE ที่ขนเอาแรปเปอร์ชื่อดังมาร้องกันสด ๆ ให้ได้สนุกกัน พร้อมทั้งยังมีเวที “วัวฮาคาเฟ่” เวทีที่รวมความฮาแห่งยุคด้วยโชว์ตลกจาก บริษัทฮาไม่จำกัดและคณะถั่วแระ เชิญยิ้มอีกด้วย
BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 10 (7 – 8 ธันวาคม 2562)
ครั้งที่ 10 นี้ BIG MOUNTAIN กลับมาภายใต้ Theme “X” คือการแปกัน ให้มันอลังการ ทุกวงการ ทุกสถาบัน ทุกองค์กร ทุกแบรนด์ ทุกค่ายเพลง งานเดียวที่รวมศิลปินเอาไว้กว่า 200 ชีวิต
ชวนทุกคนมาแปะมือเพื่อน แปะมือแฟน แปะมือคนทั้งโลก แล้วไป BIG MOUNTAIN เพราะงานนี้รวมสุดยอดศิลปิน บทสรุปวงการเพลงไทยทั้งปี ทุกแนวเพลง ทั้ง POP / ROCK / RAP / HIP HOP / INDIE / EDM / สามช่า / คาเฟ่
ความพิเศษของงานครั้งที่ 10 นี้มีอยู่ว่า มีการแปะกันครั้งแรกของวงการ HIP HOP X DANCE ครั้งแรกในรอบ 10 ปี และยังมีการพบกันระหว่าง K-POP X 90’s ตามคำเรียกร้อง เมื่อชาวเกาหลี จะมาปะทะกับชาวเรโทรยุคเก้าศูนย์
BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 11 (12 – 13 ธันวาคม 2562)
การกลับมาอีกครั้งที่จะไม่ทำให้ผิดหวังของเทศกาลดนตรีครั้งใหญ่ที่หลายคนเฝ้ารอคอย บิ๊กเมาน์เท่นปีนี้ เหมารวมทุกการงด อด เลื่อน มาไว้ที่งานนี้งานเดียวภายใต้ Theme งานที่มี ชื่อว่า “งานเดียวเที่ยวทุกเทศกาล”
เมื่อทุกอย่างเป็นใจ ให้พวกเราได้มารวมตัวกันทั้งที พี่วัวจึงขอโชว์แบบเหนือๆต้อนรับชาวโค ตั้งแต่ก้าวแรกด้วยโคมลอยล้านนาวิบวับ มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อทุกเทศกาลถูกเหมารวบยอด รวมครบจบที่บิ๊กเมาน์เท่นสิบเอ็ดงานเดียว
PEPSI HIPHOP X DANCING STAGE เวทีเป๊ปซี่ ฮิปฮอป x แดนซิ่ง ไม่ต้องรอถึงคริสมาสต์ มาฉลองที่นี่ก่อนใคร! พบกับต้นคริสมาสต์ขนาดยักษ์สูงเท่ากับตึก 10 ชั้น ที่ปีนี้เวทีฮิปฮอปxแดนซิ่งถูกเนรมิตให้เป็นดินแดนแห่งซานต้า ซานตี้บรรยากาศเทศกาลเดือดแบบสุดๆ เมื่อเสียงสัญญาณพลุดังกึกก้อง เวทีจะเปลี่ยนร่างเป็นเวที EDM วิบวับ ยิ่งใหญ่ สุดอลังการ
