ผมโยธิน  พูนสำโรง  เป็นเจ้าของร้าน เสื้อยืดวินเทจ Knowwhere Studio
จริงๆ เมื่อผมเริ่มขายของแรกๆ เมื่อนานมาแล้ว ไม่เคยมีชื่อร้าน  จนมาถึงยุคที่เปลี่ยนการขายเป็นขายออนไลน์ในอินสตราแกรมเราก็ต้องมีชื่อร้านแล้วครับ มาได้ชื่อนี้เพราะแฟนเราเป็นคนตั้งให้ ลองตั้งชื่อนี้ดูไหมส่วนตัวเราก็ชอบ  แต่ก่อนหน้านี้เคยจะเปลี่ยนชื่อ knowwhere  Studio  แต่พอมีชื่อร้านคนเริ่มรู้จักเรา  เริ่มเปลี่ยนไม่ได้แล้วก็เลยใช้ชื่อนี้มาตลอด

Q  :  จุดเริ่มต้นจากศูนย์

A :  เกิดที่โคราชครับ พอพ่อเสียป้าก็พามาเรียนที่กรุงเทพ  ผมก็อยู่กรุงเทพมาตั้งแต่นั้นจนทุกวันนี้ เมื่อก่อนคือเราบ้านจน  เราไม่ได้มีพื้นฐานอะไร  แต่มีต้นทุนในการซื้อของมาขายอยู่แล้ว  ก็เริ่มจากการที่เรามาขายของจริงจังเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว  จากเงินที่แฟนให้เรา 500 บาท  คือต้นทุนจากการที่เราหาของมาขาย  เขาคงเห็นว่าเรามีความรู้ในเรื่องเสื้อผ้า  คือความรู้ตรงนั้นให้มันเกิดประโยชน์มีรายได้ขึ้นมา  เมื่อก่อนผมทำงานประจำเอาง่ายๆมันไม่พอกินอยู่แล้ว  แค่เดือนชนเดือนยังไม่พอ  ผมต้องไปหาแฟนเพื่อเอาเงินจากแฟนเป็นค่าน้ำมันรถ   ไม่มีเงินกินข้าวเลย นั่งรถเมล์ฟรีเพื่อแบกเป้สองคนกับเพื่อนไปขายของที่คลองหลอดค่าที่ 10 บาท ขายไม่ได้  ไม่มีเงินกินข้าวมีเงินไม่น่าถึงร้อยซื้อฟันโอ 5 บาทมันได้สี่ชิ้นก็แบ่งกันกินกับเพื่อนคนละ 2 ชิ้น  นั่นก็คือน่าจะสุดๆ ที่สุดแล้วในชีวิตกว่าจะกลับบ้านได้ก็ต้องรอรถเมล์จนถึงตีสามถึงจะกลับบ้านได้  ติดค่าเช่าบ้านเขาประมาณ4 เดือน  ช่วงนั้นลำบากแย่มากๆ กับเพื่อนสองคน ประมาณหมื่นสองจนทำงานประจำพอมีเงินแล้วไปจ่าย  ด้วยว่าเราไม่มีต้นทุนเราไม่สามารถมองหาคนข้างๆที่จะพึ่งพิงได้เลยไม่เหมือนบางคนที่เขายังมีพ่อแม่คอยเป็นกำลังใจอยู่ข้างหลัง  ต่อให้คุณลำบากจริงๆคุณก็ยังมีข้าวกินที่บ้าน  แต่เราแค่ข้าวก็ยังไม่มีกิน แค่ที่พักก็ยังติด 

Q  :   แฟนคือแรงผลักดัน
A  :    คือแฟนเขาคงมองว่า 1.เราชอบแต่งตัวอยู่แล้ว   อีกอย่างเขาคงเห็นเราเคยเป็นเด็กจ้างในสวนจตุจักร  ถ้าคุณทำงานที่สวนจตุจักรได้  คุณก็ต้องมีความรู้ประมาณนึง  ในช่วงนั้นเราก็มีคนติดตามประมาณนึง  อีกอย่างเขาคงมองเห็นว่าพอเราใส่อะไรคนก็อยากได้แบบนั้นก็เลยคิดว่า  ควรหาของมาขายทำให้คนอื่นเห็นอะไรแบบนี้ครับ  จาก 500 ตรงนั้นก็เป็นทุนต่อทุนไปเรื่อย  ซื้อมา 500 ขายได้ 1,500 เราก็มีของทุนต่อทุนไปเรื่อย  ถ้าวันนั้นเราซื้อของเข้า 1,500 เราอาจจะได้กำไรสัก 5,000 วันนี้เราซื้อของได้ 5,000 เราอาจจะได้หมื่นนึง  มันเป็นเสตปแบบนั้นไปเรื่อยๆ  เมื่อก่อนจากเป็นคนที่กินข้าวต่อวันจนแทบไม่มี ผมเคยซื้อของในเดือนนั้น มากสุดน่าจะ ห้าหมื่นบาท  มันเหมือนพลิกชีวิตประมาณนึงครับ

Q  :  คิดว่าเสน่ห์เสื้อยืดวินเทจสำหรับเราคืออะไร  
A :  จริงๆ ผมมองใน สองแง่คือต้นทุนต่ำกำไรสูง   คือเราใช้เราซื้อเสื้อ  กับสองก็คือผมมองว่าถ้ามันมีรอยเฟดหรือรอยขาดอะไรแบบนี้  เราดึงจุดด้อยมาเป็นจุดเด่นได้ 
เราพรีเซนต์เสื้อตัวนั้นให้มันมีเสน่ห์มีสไตล์ของมัน  ผมว่ามันดูมีอะไร ดูน่าซื้อกว่าเสื้อมือหนึ่งที่เดินไปคนนี้ก็ใส่  คนนี้ก็ใส่อะไรประมาณนี้  ผมถึงยังชอบ ผมถึงยังรักมันจนถึงทุกวันนี้ เพราะมันมีเสน่ห์ของมันอยู่ในตัวอยู่แล้ว

Q  :  เคยมีเหตุการณ์ เหมือนเราไปบ้านเพื่อนแบบที่เขาทิ้งแล้ว  แล้วเราแบบเอามาขายไหม
A  :  ก็เคยมีเสื้อที่เขาแบบไม่ได้ทิ้ง แต่คือเสื้อที่เขาใช้เป็นผ้าเช็ดเท้า  แต่ผมขอซื้อแม่เขาในราคา 500 แต่เขาก็ไม่ได้ขาย  เขามองเป็นผ้าเช็ดเท้าจะขอซื้อไปทำไม  เขาก็เลยให้มาผมก็เลยเอาผ้าเช็ดเท้านั้นมาซักหน่อย  แต่จริงๆมันขาดแล้วเป็นรอยเหมือนแดดเลีย  แล้วเฟดเยอะมาก  ผมก็เอามาขายที่ร้านนี้แหละ  ผมขายไป 1,500แล้วก็มีอีกอย่างนึง  มันจะเป็นผ้าเหมือนผ้าขี้ริ้วเลย  อันนี้เหมือนเป็นผ้าขี้ริ้วของเจ้านายเก่า  เขาเคยไปเรียนที่ อเมริกาแล้วเขากลับมา  เขามีผ้าเช็ดตัวผืนนี้เหมือนนี้  เขาให้เอาไปเช็ดพื้นอะไรสักอย่างแล้วเราเหมือนกับว่า ขอ เราบอกว่าผืนนี้เราขอได้ไหม  เขาก็บอกว่าอยากเอาไปทำอะไรก็เอาไปได้เลย  ผมก็เอาผืนนี้มาแช่จนขาวสะอาด  ผืนนั้นผมขายประมาณ 4,000  เป็น ผ้าเช็ดตัวที่เป็นแบรนด์  Polo Ralph Lauren  มันเป็นลายที่ค่อนข้างหายากประมาณนึง

Q :   มีเซเลปคนไหน ที่ไม่คิดว่าเขาจะมาซื้อ  แต่เขามาซื้อของเรา
A:  มีแจ๊ค  แฟนฉัน  ผมไม่คิดว่าเขาจะมาเล่นเสื้อวินเทจได้  เขาเคยโทรมาหาผมครั้งนึง  โทรมาที่ร้าน  อยากเข้ามาดูเสื้อ  ผมก็คิดว่าเขาไม่น่าจะซื้ออะไรมากแต่ แต่มาครั้งแรกเขาก็ซื้อประมาณนึง  ซื้อประมาณ 4,000 – 5,000  ทุกวันนี้เขาก็กลายเป็นลูกค้าประจำเรา มีของอะไรส่งให้ดูหน่อยนะ  โทรคุยกันเอาง่ายๆคือไม่คิดว่าเขาจะใส่เสื้อวินเทจ  คงด้วยแฟชั่นที่มันร่วมสมัยในการแต่งตัว  เขาคงเห็นเพื่อนเขาทั้งที่สนิทและในวงการทั้งพี่แทค ทั้งพี่แจ๊สด้วย  พี่แจ๊สก็ซื้อบ้าง

Q  :  จากพ่อค้าออนไลน์ เปลี่ยนเป็นร้านได้ยังไง
A  :  คือจริงๆ ก่อนหน้านี้  ผมเคยทำร้านคือจะใช้ใครจะดูของให้โทรเข้ามาก่อน  เราขับรถไปรับเขาแล้วให้เขามาดูของที่บ้าน  แต่ตรงนั้นค่อนข้างเดินทางลำบาก  ผมก็เลยแบบทำยังไงให้คนเห็นของเรามากขึ้น  ตอนนั้นผมไปญี่ปุ่นกลับมาแล้วเพื่อนมันบอกว่ามันมีตรงนี้  พอเรามาเห็นแล้วเราก็ชอบคือเราอยากทำร้านอยู่แล้ว  แต่จริงๆแล้วการทำร้านมันเป็นความฝันของผมตั้งแต่สมัยเราเป็นเด็กจ้างอยู่สวนจตุจักรอยู่แล้วครับ คือเราเห็นเขามีร้านเราเป็นลูกน้องเราก็อยากมีเป็นของตัวเอง เพราะเราชอบสิ่งที่อยู่ตรงนั้น  พอเรามีทุนเราสามารถขายของได้  พอเรามีทุนเราสามารถขายของได้เราเริ่มมีกำไรในการทำตรงนั้นได้เราก็อยากแต่งอะไรอย่างนั้นครับ

Q  :  ในร้านตอนนี้ตัวไหนแพงสุด
A  :  ตัวนี้เลยครับ ตัวนี้ขายอยู่ หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท!!  คือมันเสื้อในปี 80  ของบริษัทชื่อว่าฟิกคอลัมป์ลอนดอน มันคือเป็นเสื้อวง จอยอิดิชั่นปี 1980   อย่างบริษัทนี้เป็นบริษัทที่เริ่มตั้งเมื่อปี 1977  เป็นยุคที่ดนตรีเหมือนพังซ์  ในฝั่งอังกฤษมันค่อยข้างเฟื่องฟูมาก  เขาก็เลยเห็นว่าทำงานเป็นแฮนด์ปริ้น  ด้วยเสนอของฟิกคอล์มป์เสื้อของเขาจะเป็นแฮนด์ปริ้นหมดเลย  เป็นการสกรีนมือหมดเลย  รวมถึงสีที่เขาเลือกคู่สีที่มันดูฉูดฉาดพอสกรีนออกมาแล้วมันสวย  แล้วความหายากของเสื้อ  เอาง่ายๆคนไทยเขาอาจยังไม่ชินกับเสื้อสไตล์แบบนี้  คนไทยอาจเล่นเสื้อในสไตล์แบบนึงแต่ถ้าเป็นคนที่เขาฟังเพลงจริงเขาเล่นเสื้อจริง ฟิบคลอร์มลั้มเป็นหนึ่งในคอแลคชั่นที่ควรมี  เอาง่ายๆระหว่างเสื้อของอังกฤษกับอเมริกา  เวลาที่คุณทัวคอนเสิร์ตอย่างวงอเมริกาคนดูหลักหมื่นคน  แน่นอนเสื้อขายหน้างานก็หลักหมื่นตัว  อย่างวงอังกฤษคนดูสามร้อยคน  เสื้อขายหน้างานอาจจะ 50 ตัวมันเลยทำให้จำนวนของเสื้อมันน้อย  บางอย่างมันน้อยไม่พอบางอย่างเสื้อมันหายากจริงๆ อย่างวงทางฝั่งอังกฤษ เหมือนเขาทำใส่แค่เขาคนเดียวแล้วเขาก็ให้กับแฟนคลับที่เขารู้สึกอยากให้จริงๆ มันก็เลยทำให้เสื้อวงพั้งค์บางตัว  ที่มีแบบตัวเดียวในโลก
และมีราคาค่อนข้างสูง  สำหรับเด็กที่เริ่มเก็บเสื้อผมไม่แนะนำ  มันสำหรับคนที่ความชอบจริงๆ คือมีความฝังใจตั้งแต่เด็กว่าวงนี้เราชอบจริง

Q  :  ขออีกสัก สี่ตัวในร้านที่เด็ดๆ  ราคาเท่าไหร่ มันพิเศษยังไง
A  :  ตัวที่2 เป็นตัว  “มอสกีโต้เฮด”  คือเป็นศัพท์เสื้อในวงการเสื้อวินเทจ  เขาเรียกว่าเสื้อผ้ากัดครับ มันเหมือนใช้เป็นการกัดเสื้ออะไรแบบนี้  แล้วอันนี้มันทำลายของหนัง หนังชื่อ คอปเวอร์ออเร้นครับ  เสื้อผ้ากัดทุกตัวมันมีราคาอยู่แล้วเป็นหลักหมื่นขึ้น  แต่ลายบางตัวมันค่อยข้างหายากหน่อย  อย่างตัวนี้ผมขายอยู่ 35,000  จริงๆราคามันค่อนข้างสูงไหม ผมก็มองว่าสูงแต่สำหรับลายที่มันหายากหน่อย  มันก็คุ้มราคา

A  :  ตัวที่3  “เรสฮอตชีริทเปเปอร์”    ตัวนี้น่าจะเป็นลายที่แพงสุดของ เรสฮอตแล้วพี่ ตัวนี้ผมขายอยู่ 45,000

A  :  ตัวที่4 ต่อไปเป็นเสื้อ “เรฟที”  ที่แพงเพราะว่าจากเมื่อก่อนมันเป็นเสื้อปลอมที่แบบ  เหมือนแฟนคลัฟออกแบบเองเพื่อขายในกลุ่มกันเอง  เป็นร้านที่เราทำเสื้อกันมาโดนที่เราเอารูปศิลปินนั้นมาทำ แล้วคู่สีมันเป็นยุค 90 ครับ  ผมมองจากราคาป้ายในยุค 90 น่าจะ 10 เหรียญ  ตกตัว 300 บาท พอมันผ่านมาถึงยุคนี้มันข้ามมาเป็นวินเทจไปแล้ว  จากเมื่อก่อนปี90 มันก็ 20 กว่าปีแล้วมันก็เลยทำให้เสื้อพวกนี้มีราคาขึ้นจากเมื่อก่อน ตัวละ 300 ผมขายที่ร้านตัวละประมาณ 12,000 ครับ  มันก็เลยทำให้คนที่เล่นเสื้อบางคน  ทั้งเสื้อปลอมที่มันเป็นปลอมแท้ๆ  เขาใช้ศัพท์คำว่า “วูดเลด” ปลอมที่มันตรงยุค ปลอมตั้งแต่สมัยนั้น  กับปลอมสมัยนี้มันก็ไม่มีราคา 

บางคนบอกทำไมพี่ขายเสื้อปลอมได้  คือเราต้องบอกกับลูกค้าบางอย่างเสื้อปลอมคนที่เขาเล่นกันมันตรงยุคตั้งแต่ 1990 , 1980   ไม่ใช่คุณบอกลูกค้าว่าคุณขายเสื้อปลอม แต่คุณเป็นเสื้อปลอมที่สมัยใหม่  ผมก็เลยมองว่าเสื้อ “วูดเลด” หรือเสื้อปลอมในสมัยนั้น มันดูมีคุณค่ากว่าเสื้อปลอมในลายที่มันแปลกกว่า  หรือว่ามันหายากกว่า  เคยมีเสื้อ “วูดเลด” เสื้อปลอมเนี่ย  ผมเคยเห็นนะมีการซื้อขายกันจริงก็ประมาณ 3500 เหรียญ หรือประมาณ แสนบาท  .. มันมีการซื้อขายกันจริง และเหมือนมีตัวเดียวในโลกจริงๆ  เหมือนบอลคในลายนั้นคนทำออกมาน้อยมาก แล้วเหมือนทิ้งบล็อคไปแล้วมันก็เลย ค่อยข้างแพง

Q  :  วิธีการตั้งราคา ดูยังไงบ้าง
A  :   คนอื่นเขาอาจจะอิงราคาอีเบ  อิงราคาที่ตลาดโลกเขาขายกัน   ส่วนตัวผมอิงราคาโดยที่เสื้อมันหายาก  บางอย่างผมอาจจะขายแพงกว่าชาวบ้าน บางอย่างผมก็ขายถูกกว่า  มันอยู่ที่ว่าเราอยากให้ของชิ้นนั้นมันดูมีคุณค่ามากน้อยแค่ไหนมากกว่า 
คุณเป็นพ่อค้าหน้าใหม่คุณได้ของมาชิ้นนึง  คุณรู้สึกว่าพอไปเสิร์ชอีเบราคามันแพงมากแล้วคุณอยากขายเท่านั้น  ผมกล้าพูดได้เลยยังไงคุณก็ขายไม่ได้หรอก  เพราะว่าคุณยังไม่มีโพไฟล์ คุณยังไม่มีอะไรที่มันน่าเชื่อถือ ที่จะทำให้ลูกค้าอยากซื้อเสื้อจากคุณเลยอะไรประมาณนี้  ของบางอย่างได้ของดีไม่จำเป็นต้องขายแพง  ของบางอย่างไม่ดีด้วยซ้ำแต่ผมขายแพงได้เพราะผมพรีเซ็นของให้มีคุณค่ามากกว่าครับ  ผมกำหนดเองทุกอย่าง  ไม่เคยมาเช็คร้านอื่นขายเท่านี้   อย่างร้านอื่นขายแพงแต่เราอยากขายถูก 
เพราะเราอยากให้ลูกค้าได้ใส่  เพราะถ้าเขาเห็นว่าเสื้อที่เขาได้ไปมันมีคุณค่าและมันสมราคา  กับบางคนบอกว่าเสื้อตัวนี้มันหายากจริงๆ  แล้วก็ไปฟันลูกค้าแพงๆเขาก็ไม่อยากซื้อ  ของบางอย่างมันหายากจริง  แต่มันสมกับราคาที่มันหายากมันก็ลูกค้าก็อยากซื้อไปใส่

Q  :  วิธีการดูของแท้ของปลอม
A  :  มันก็มีเบสิกง่ายๆที่พ่อค้าเขาว่า ป้ายคอมันเป็น บริษัท ฟุต ฮาเน็ท แอนวิว  มันจะมีเอยะมากแต่ทุกวันนี้ผมมองว่า  ต่อให้พ่อค้าหน้าใหม่ที่เล่นเสื้อจริง  เป็นป้ายที่มันตรงจริง เมดอิน USA ป้าย  แต่สกรีนไม่ใช่มันก้คือของปลอมเหมือนกันเพราะว่า  มันก็มี 9515 คนที่เอาเสื้อเก่าจริงๆไปทำสกรีนใหม่  ถ้าอย่างผมนะผมมองเสื้ออย่างแรกผมดูแค่สีสกรีนถ้าสีสกรีนมันโดดกว่าสีปกติที่เราเคยเห็นเสื้อมา  เราก็มองปลอมละอีกอย่างผมลูบสกรีนผมก็รู้แล้วว่าเสื้อแท้เสื้อปลอมยังไง  ถ้าอย่างเบสิกมันอาจจะดูง่าย  แต่มันอาจจะมีเสื้อที่มันค่อนข้างลึกกว่านั้น  ตรงที่มันดูยากฆ่าเซียนแน่นอน  มันพูดยากมันต้องสอนเป็นรายตัว มากกว่า แต่ถ้าแบบ เบสิคจริงๆก็ดูแค่ป้ายดูแค่เนื้อผ้าไม่ใช่คอไม่ใช่ก็จบแล้ว ไม่ต้องดู มันก้มีหลากหลายครับ มีทั้งเสื้อเก่าไปเย็บป้ายใหม่  มันก็มีเทคนิคเยอะแยะ

Q  :  มีตัวไหนที่อยากได้อีกไหม
A  :  ผมเพิ่งได้มาด้วย คือเป็นเป็นเสื้อสตุ๊ดซี่ลายบ๊อบมาเล่  คือมันเป็นความฝันของเราตั้งแต่เราเคยอยู่สวนจตุจักรสมัย 10 ปีที่แล้วมีชาวญี่ปุ่นเขามาซื้อเสื้อตัวนี้ในราคา 2 หมื่นบาท ที่ร้านที่เราทำงานอยู่  เมื่อ10 ปีที่แล้ว สองหมื่นบาทเราก็ความฝันของเรา เราอยากได้มากเราอยากมีครอบครอง แล้วเมื่อสักอาทิตย์ที่แล้วมีเพื่อนผมที่มาเลส่งเสื้อมาว่าตัวนี้เอาไหม เขาขายให้ในราคา7,000 ผมตอบไปเลยว่าเอา เดี๋ยวบินไปเอา  พี่คิดดูตอนนั้น 20,000 บาท ตอนนี้ราคาขายน่าจะอยู่ประมาณ 50,000 บาท ผมไม่ได้มองว่ามูลค่ามันสูงหรืออะไร คือเราฝังใจตั้งแต่เด็กว่าเราอยากได้เสื้อตัวนี้มาครอบครองแล้วเราได้ ผมก็เลยมานั่งคิด  ของบางอย่างมันอยู่ที่เวลา  เสื้อบางอย่างมันเลือกคนจริงๆนะ  ผมขายเสื้อมาตลอดทุกวันนี้ผมคิดว่าผมอยากได้เสื้ออะไรผมได้ตลอด  เมื่อวานนี้เพิ่งคุยกับแฟนว่าผมอยากได้ อีมีเนมนะ  ผมบอกว่ามีลูกค้าอยากได้เสื้อตัวนี้ แล้วโยเพิ่งไปจองเสื้อมาได้เมื่อกี้  เอาให้เขาดูมันก็เหมือนพอเราคิดอยากได้ตัวนี้เสื้อมันมาเอง  มันเหมือนดวงผมมากับทางนี้ด้วยมั้ง  จากเมื่อก่อนผมก็เคยคิดนะผมไปเดินตามตลาดนัด  วันนี้ผมอยากได้เสื้อตัวนี้ผมได้จริงๆ  ผมคุยกับเพื่อนว่าผมอยากได้เสื้อตัวนี้ในราคา 50 แล้วผมก็ได้จริงๆ แบบงงมาก แบบคิดอะไรต้องได้แบบนั้นเหมือนดวงผมมันมาทางเฉพาะเรื่องเสื้อ

Q  :  เรามองว่าอะไรเป็นแรงดึงดูดให้คนต้องมาซื้อเสื้อที่ร้านเรา
A  :  คืองี้ผมไม่ได้อวยอะไรนะ  คือผมมองว่าเราอะทำร้านให้มันสวย  ถ้ารายการถ่ายช้ากว่านี้อีกเดือนนึงร้านใหม่ของผมถ่ายสวยกว่านี้เยอะมากผมลงทุนไปเยอะมากเกือบล้านครับ 2. ไม่ใช่คุณเอาเสื้อมือสองมาขายสักแต่ว่าซื้อมาขายไปไม่มีวิธีการเอามาวางแบบว่าไม่มีการจัดให้มันดูสวยงาม  ของบางอย่างถ้ามันเก่าจริง  เสื้อมันเก่าจริงถ้ามันอยู่ในสถานที่ที่มันดูดีคุณจัดวางให้มันดีมันทำให้มันมีมูลค่าหมด  ผมได้ความคิดหรือไอเดียต่างๆจากที่เราได้ไปเที่ยวต่างประเทศ เหมือนเราไปดูงานมาแล้วผมอยากทำอะไรที่  ไม่ใช่ว่าการที่คุณเอาเศษขยะหรืออะไรที่เป็นเสื้อมือสองเนี่ยทำให้มัน สร้างรายได้ของคุณทำพวกนี้คุณเหมือนมีคุณค่ามากในการที่จะสร้าง   ทุกวันนี้ที่ผมคุยกับลูกค้าผมคุยกับทุกคน  ผมไม่ได้บอกทุกคนว่าผมเป็นพ่อค้าแต่ผมเป็นอาร์ตติส  เพราะผมว่าของทุกอย่างมันดูมีคุณค่าไปหมดเลยมันดูเป็นของที่เราสามารถสร้างจากงานที่มันดูแบบทุกคนดูว่าไม่มีคุณค่า   แม้แต่เสื้อที่มันขาดมากๆทุกคนไม่เอา  เราก็หยิบมันขึ้นมาทำให้มันมีคุณค่าแล้วมันน่าจับต้องมันน่าค้นหามากอะไรอย่างนี้   ทุกวันนี้ไม่ต้องบอกว่าเราเป็นพ่อค้า  ผมเป็นศิลปินเก็บของอะไรประมาณนี้  ผมอยากโชว์งานศิลปะของผมบนลายเสื้ออะไรแบบนี้มากกว่า  เพราะว่าบางอย่างอย่างคนที่เขาเล่นของเก่า  เหมือนเขาเก็บอะไรลายที่เขาหายากเขาก็มีในด้านของเขา เราก็มีในด้านของเรา  เราก็อยากโชว์ของหายากในด้านของเราบ้าง 

ร้านใหม่อยู่ที่ BTS สะพานควาย  เป็นตึกสามชั้น ใหญ่กว่านี้สามเท่า  แบ่ง ชั้น1 เสื้อผ้าวินเทจ น้ำ ชั้นสองแบรนด์เสื้อผ้าของเรากับ ของเพื่อน ชั้น3  เป็นร้านสัก  ผมทำเป็นสามร้านใหญ่เลยน่าจะเปิดเร็วๆนี้ครับ

Q  :  เศรษฐกิจมีผลกับเราไหม
A  :  ผมไม่เคยมองว่าเศรษฐกิจแย่ หรือว่าดีอะไรเลย  ผมมองว่าต่อให้เศรษฐกิจแย่แต่ถ้าเราไม่เปลี่ยนการขาย ตามให้ทันลูกค้าอะ  ผมว่ายังไงคุณก็เจ๊ง  ต่อให้คุณมีเงินลงทุนเป็น10 ล้าน คุณมาบอกว่าเศรษฐกิจแย่ คุณก็ยังทำการค้าขายอยู่แบบเดิม  คุณยังใช้ระบบการค้าขายในแบบเดิมๆ  ไม่มีการพรีเซ็นต์ของแบบใหม่  ไม่มีการขายแบบสไตล์การขายแบบใหม่ๆ  ผมว่ายังไงก็เจ๊ง  แต่ถ้าปรับตัวต่อให้เศรษฐกิจมันแย่มาก ทุกคนบ่นกันหมดร้านค้า แม้แต่7-11 ก็บอกว่าบ่นขายไม่ดี  แต่เราสามารถขายให้มันได้เพราะว่าเราต้องตามโลกให้มันทัน  เราต้องเรียนรู้ว่าเราควรลูกค้าเขาเปลี่ยนไปอย่างไงแล้ว  สไตล์ในการซื้อของของลูกค้าเป็นแบบไหนแล้ว  ไม่ใช่ว่า 10 ปีคุณก็ขายอยู่อย่างนั้น  อย่างผมขายแบบนี้10ปีผมก็เจ๊ง ถ้า10 ปี  ผมอาจจะไม่ขายเสื้อแบบสไตล์นี้แล้วก็ได้  ของทุกอย่างมันต้องทันยุคตามสมัยต้องตามคนที่ซื้อมากกว่า  คนที่ได้เปรียบพ่อค้าคนอื่นๆผมมองว่าถ้าคุณมีแฟชั่นมีแพดชั่นมีความคิดต่างกว่าคนอื่นๆ  ยังไงคุณก็ไม่มีวันเจ๊งครับ  จริงๆความฝันสูงสุดคือการมีร้านที่ต่างประเทศ  แต่มันคงอีกสักพักนึงอีกนานเลย เพราะร้านใหม่ผมก็ลงทุนไปเยอะมากครับ ผมมองว่าผมอยากให้ร้านของเราเป็นจุดแลนด์มาร์คใหม่ของต่างประเทศที่เขามาบ้านเรา ถ้าเขานึกถึงเสื้อผ้าวินเทจเขาจะนึกถึงเราอะไรแบบนี้ครับ  คือคุณอยากได้เสื้ออะไรถ้าคุณไปญี่ปุ่นคุณต้องร้านนี้นะ  ถ้าคุณมาไทยคุณต้องร้านนี้ผมอยากให้มันเป็นแบบนั้นมากกว่า

Q  :  วิธีคิดแบบ โย สู่การมีวันนี้คืออะไร
A  :  ผมว่าน่าจะคิดต่างมั้ง  พี่ลองคิดดูมาตั้งร้านตรงนี้คนแถวนี้เขามองกันหมด  ตั้งร้านทำไมขายได้เหรอ  ทำไมไม่ไปขายตามตลาดนัด  ถูกไหมถ้าคุณขายเสื้อผ้าทำไมคุณไม่ไปขายตลาดนัด  แต่ผม ผมไม่ได้คิดแบบนั้น  คุณจะทำร้านแบบไหนก็ช่าง ต่อให้ผมเปิดร้านอยู่ในเขาแต่ถ้าผมทำร้านสวยใครก็อยากมา  ผมไม่เคยคิดเลยว่าการค้าขายคุณต้งอยู่ในตลาดนัดหรือคุณต้องอยู่ในแหล่งตลาดที่ผู้คนเยอะๆ หรือสวนจตุจักร ผมบอกเลยของผมไม่จำเป็น  ต่อว่าคุณอยู่ในหุบเขาหรือในทะเล  แต่คุณมีของดี คุณพรีเซนของให้มันดี  คุณทำร้านให้มันสวยใครก็อยากมาต่อให้คุณ  ต่อให้เขามาร้านคุณเขาไม่ได้ซื้อไปสักตัวเขาก็ได้อะไรในการกลับไป  ผมมองด้านในการตลาดที่เขามา  ต่อให้เขามาเขาได้ถ่ายรูปหนึ่งรูปแน่ๆ  แล้วคนฟอลไอจีเขาหลักพันคน คนก็เห็นแล้วหนึ่งพันคน มันเป็นการต่อยอดทางธุรกิจเราไปอีก

Q  :  ให้กำลังใจกับคนในยุคนี้หน่อย
A  :  จริงๆเรื่องนี้มีคนทักมาทุกวันทั้งในเพจและในไอจี ถามผมหน่อยว่าต้องดูยังไง 
พี่เป็นกำลังใจในการสร้างอาชีพให้ผมเลยนะ  จริงๆชีวิตผมแย่แบบแย่  ไม่มีพ่อแล้งพ่อก็เสียตั้งแต่เด็กต้องมาอยู่กับป้าแล้วก็เหมือน  ด้วยความที่เราดิ้นรนมากความเห็นแก่ตัวความทะเยอทะยานมันทำให้เราอยากมีแบบคนอื่น  อยากแบบเราอยากมีชีวิตที่มันดีขึ้นมากกว่าเราก็เลย  พอผมมองว่าผมเจอสิ่งที่เรารักแล้ว  ผมจับมันให้แน่น  ผมก็ทำให้มันเต็มที่จนทุกวันนี้  ก่อนหน้านี้ผมทำแบบนี้เมื่อ5 ปีที่แล้ว ผมไม่สำเร็จผมกลับบ้านที่ต่างจังหวัดทุกคนว่าผมหมด 
ว่าทำไมไม่ไปหางานประจำที่มันแบบมีเงินเดือนคงตัวหรือว่าทำงานข้าราชการ ผมโดนว่ามาตลอด  ทุกวันนี้ผมกลับไปบ้านทุกคนอยากเข้าหาผม อยากถ่ายรูปกับผม  เพราะว่าเขาเห็นเราทำอยู่ทุกวัน ทำ ทำ  จนเราสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ มีเพื่อนบางคนเคยทักเฟสมาขอโทษผมบอกว่าเขาดูถูกผมว่าทำไมถึงยังทำอยู่  ผมก็เลยอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าที่เราทำทำอยู่อย่างนั้นทำซ้ำทำอยู่อย่างนี้ต่อให้เราล้มลุกคลุกคลานยังไง  เราก็ยังรักมันอยู่เราก็ยังทำมันอยู่สักวันนึงมันต้องประสบความสำเร็จบางคนท้อตั้งแต่แรก  ผมก็กล้าพูดว่าผมก็ท้อเพราะเราไม่มีเงินทุนหรืออะไรอย่างคนอื่นเลย เรามีแค่ความคิดที่เราแตกต่างจากคนอื่น  เราสามารถทำได้  เราจึงมาได้จนถึงทุกวันนี้  จริงๆเด็กรุ่นใหม่เราไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อค้าขายเสื้อแบบผมหลอก คุณถนัดเรื่องอะไรทุกวันนี้
มีอาชีพเยอะแยะยูทูปเบอร์เขาทำอาชีพเป็นร้อยล้าน  คือเราก็พิสูจน์ให้คนอื่นเห็นเราก็จะประสบความสำเร็จเอง

Q  :  ร้านเรามีสินค้าอะไรบ้างที่ลูกค้าชอบ
A  :  อย่างที่ร้านผมมีเสื้อผ้าหลายอย่าง  อย่าง เสื้อวงดนตรี  เสื้อหนัง  เสื้อแบรนด์ทั่วไป  หรือจะเป็นวินเทจรุ่นเก่าไม่ว่าจะเป็นลายการ์นตูน  ผมก็แยกแซกชั่นไว้เลยว่าคุณชอบเสื้อประมาณไหน  คุณลองเลือกเสื้อได้เลยว่าคุณชอบแบบไหน

ถ้าคุณอยากมองหากำลังใจดีๆ  หรือว่าความคิดดีๆ  คุณมาดูในรายการฺBright Talkได้ที่Youtube Bright TV.นะครับ 

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ เล่านาที ลิซ่า ส่งข้อความหาหลังทราบข่าวหย่า พีเค

โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ เล่าโมเมนต์ ลิซ่า BLACKPINK ส่งข้อความหาหลังทราบข่าวคราวหย่า พีเค ปิยะวัฒน์ ผ่านทางยูทูบ WOODY FM

7 วันอันตราย ช่วงวันสงกรานต์ 2567 รวมยอดอุบัติเหตุ รวม 2,044 ครั้ง

สรุป! 7 วันอันตราย ในวันสงกรานต์ 2567 รวมยอดอุบัติเหตุ 2,044 ครั้ง ดับ 287 ราย จังหวัดเชียงราย ครองแชมป์อุบัติเหตุ-เสียชีวิต มากที่สุด

“บยอนอูซอก” จาก ‘Lovely Runner’ เปิดใจเกี่ยวกับการถูกปฏิเสธออดิชันกว่า 100 ครั้ง

ที่สุดของความพยายาม “บยอนอูซอก” จากซีรีส์เรื่อง ‘Lovely Runner’ เปิดใจการถูกปฏิเสธออดิชันกว่า 100 ครั้ง! ในรายการของ “ฮงซอกชอน”

ดาวพฤหัสย้ายครั้งใหญ่! 7 ราศี รวยสุด! ปังสุด! ค้าขายราบรื่น

อาจารย์เบิร์ด ธีรพงศ์ เผย ดาวพฤหัสย้าย 2567 : 7 ราศี รวยสุด! ปังสุด! ชีวิตราบรื่น เงินทองเข้าหลายทาง

หนุ่มใหญ่ ตัดพ้อ! ถูกโกงค่าแรง ตัดสินใจจบชีวิต กระโดดน้ำดับ

ถึงทางตัน! หนุ่มใหญ่เครียดหนัก โดนโกงค่าแรงจากบริษัทดัง ตัดพ้อจบชีวิตด้วยการ กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ในวันคล้ายวันเกิดของลูกชายคนเล็ก

พิรุธ! พบหนุ่มเมียนมาร์ถูกแทงเสียชีวิต หลังเกิดเหตุภรรยาหายตัวปริศนา

เพื่อนบ้านช็อก! พบศพชายชาวเมียนมาร์ ถูกแทงเสียชีวิตคาห้องพัก หลังเกิดเหตุภรรยาหายตัวปริศนาติดต่อไม่ได้ ตร.เร่งสอบสวน
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า