สำหรับวันที่ฝนตกกระหน่ำ ทำให้ต้องเผชิญกับเหตุการณ์น้ำท่วม หลายคนอาจวิตกกังวล กลัวข้าวของเสีย น้ำท่วมรถ หรือเป็นกังวลกับสัตว์ที่เลี้ยงไว้
วันนี้ Bright Today จะมาบอกวิธีรับมือ หากฝนตกกะหน่ำ น้ำท่วมรถ แต่ไม่อยากให้รถพัง ต้องทำอย่างไร
วิธีดูแลรถหลังน้ำท่วม
เช็กความเสียหาย
อันดับแรกที่ต้องทำหาก น้ำท่วมรถ หลังจากน้ำท่วมแล้ว ควรตรวจสอบความเสียหายของรถ ทั้งภายในและภายนอก แต่ถ้าหากรถคุณมีประกันชั้น 1 อย่าลืมแจ้งประกันเด็ดขาด! จะได้ผ่อนหนักเป็นเบาได้
อย่าสตาร์ทเครื่องยนต์
หลายคนมักจะเช็กความเสียหายของรถด้วยการตาร์ทเครื่อง ห้ามทำเด็ดขาด! เนื่องจากการสตาร์ทรถทันที จะทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย จากเศษขยะต่างๆ ที่มากับน้ำ จะทำให้ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ได้ อีกกรณีหากรถแช่น้ำนานๆ และสตาร์ทรถหลังน้ำลดทันที อาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
ส่งรถให้ช่าง
เมื่อเช็กสภาพรถเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาส่งต่อให้ช่างผู้ชำนาญการด้านรถยนต์แก้ปัญหาต่อไป และควรบอกรายละเอียดระดับน้ำที่ท่วมรถ หรือน้ำที่รถคุณไปวิ่งลุยมา เพื่อเป็นประโยชน์แก่ช่างทำให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น
หากน้ำท่วมอะไรบ้างที่จะได้รับความเสียหาย ?
เครื่องยนต์ : ปกติแล้วความเสียหายของเครื่องยนต์จะเกิดขึ้นในระบบดูดอากาศ ซึ่งสิ่งแรกที่จะต้องเปลี่ยนคือ ‘กรองอากาศ’ เพราะเศษขี้ฝุ่นจากน้ำจะเข้าไปติดอยู่ในส่วนนี้มากที่สุด
ช่วงล่าง : น้ำท่วมก็ส่งผลต่อระบบช่วงล่างได้เหมือนกัน โดยเฉพาะลูกยางต่างๆ ที่ฝืดจากการโดนความชื้นในการแช่น้ำเป็นระยะเวลานานๆ
ระบบไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ : ส่วนใหญ่แล้วความเสียหายจากรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมนั้นมักจะเกิดขึ้นที่ระบบไฟฟ้าเสียมากกว่า ซึ่งประเด็นสำคัญก็ไม่พ้นการไล่ความชื้นในระบบ
สนิม : อย่าลืมเรื่องตัวถัง โดยเฉพาะรถที่บาดแผลก่อนจะโดนน้ำท่วม ต้องระวัง หลังน้ำลดควรแวะไปทำสีสักหน่อย เพราะจุดนั้นอาจจะทำให้เกิดสนิมได้