พ่อ-แม่สอนลูก วิธีเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถ ฝึกให้คล่อง ไม่เป็นภัยต่อชีวิต

เด็กติดอยู่ในรถตามลำพังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย บางรายช่วยได้ทันถ่วงที แต่บางรายนั้นก็ต้องเกิดการสูญเสีย สาเหตุเพราะเด็กไม่รู้วิธีเอาตัวรอด จะต้องทำวิธีการใดเมื่อติดอยู่ในรถตามลำพัง วันนี้ ไบรท์ ทูเดย์ (Bright Today) มาแชร์ วิธีเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถ ซึ่งวิธีนี้ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลย

• รู้จัก กองสลากพลัส คืออะไร ในฐานะผู้สนับสนุนฟุตบอลไทยลีกรายใหม่

• เปิดประวัติ รร.สิริรัตนาธร หลังร่อนจดหมายเตือนใจพ่อแม่ อย่ากดดันลูก

• 6 สิ่งที่ควรทำเมื่อขับรถตอนฝนตก เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

สอนลูกน้อยกับ วิธีเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถ

1. ช่วยเหลือตนเองเบื้องต้น ผู้ปกครองควรสอนวิธีการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ในรถให้เป็นก่อน โดยการสาธิตให้ลูกดูเป็นตัวอย่างก่อน แล้วค่อยสอนให้ลูกลองทำตามทีหลัง

• สอนบีบแตรรถยนต์ ควรสอนวิธีการใช้งานแตรรถยนต์ว่าทำงานอย่างไร หลังจากกดแล้วคนภายนอกจะได้ยิน และควรกดย้ำ ๆ หรือลากยาวเพื่อแสดงถึงความผิดปกติ ดึงดูดความสนใจของคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี แถมวิธีนี้ยังใช้ได้กับรถยนต์ทุกคันแม้กุญแจจะถูกดึงออกก็ตาม

• สอนเปิด-ปิดประตูรถยนต์ คุณควรจะสอนวิธีการเปิดประตูรถยนต์ให้เขารู้ว่าควรเปิด-ปิดประตูเมื่อไร ซึ่งเด็กอายุ 3-4 ขวบ พอจะมีแรงในการเปิดประตูบ้างแล้ว การสอนให้เขาทำด้วยตนเองก็จะช่วยให้เขาฝึกช่วยเหลือตนเองไปด้วย

• สอนล็อก-ปลดล็อกประตูรถยนต์ นอกจากการสอนเปิด-ปิดประตูรถยนต์แล้ว ก็ควรปลูกฝังให้เด็กรู้จักขึ้นรถแล้วให้กดล็อกประตู จะลงจากรถก็ให้ปลดล็อก โดยการพูดบ่อย ๆ ไปพร้อมกับการให้ปฏิบัติเองบ้างบางครั้ง เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ว่า เขาสามารถควบคุมอุปกรณ์เหล่านี้ได้ ขั้นตอนนี้ต้องฝึกเป็นประจำ ให้เด็กทำทุกครั้งที่ขึ้น-ลงรถ เพื่อไม่เกิดความสับสน การปลดล็อกประตูสำหรับรถบางคันนั้น จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีกุญแจค้างอยู่เท่านั้น

• สอนเปิด-ปิดไฟฉุกเฉิน อีกหนึ่งจุดที่ทำให้รถยนต์เป็นจุดสังเกตได้โดยง่าย ด้วยการสอนให้เด็กรู้จักกับสัญลักษณ์ไฟฉุกเฉิน และบอกวิธีการใช้งานว่าควรเปิดตอนไหน วิธีนี้ง่าย และเป็นวิธีที่รถทุกคันสามารถทำได้ แม้กุญแจจะถูกถอดก็ตาม

2. การติดต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง ให้เด็กพกอุปกรณ์ที่ช่วยติดต่อพ่อแม่ได้อย่างสะดวกสบาย เช่น สมาร์ทวอทช์ หรือโทรศัพท์มือถือ โดยสอนให้เด็กกดปุ่มโทรฉุกเฉิน หรือการโทรออกที่ไม่ซับซ้อน เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้ และทำได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ควรให้เด็กพกกระดาษที่มีชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ของผู้ปกครองติดตัวไว้ ก็อาจช่วยให้ผู้พบเห็นสามารถช่วยเหลือ แต่ติดตามหาผู้ปกครองได้

3. ซ้อมจัดสถานการณ์เสมือนจริง ควรให้เด็กทดลองทำจริงด้วยตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น เด็กสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์ฉุกเฉินได้ ซึ่งการจำลองสถานการณ์ พ่อแม่ควรดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้อาจต้องปรึกษาผู้รู้ และไม่ควรเคร่งครัดจนทำให้เด็กหวาดกลัว

ขอบคุณข้อมูล : Directasia Thailand

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ

Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY