ย้อนรอยเหตุการณ์ “ไฟไหม้เซ็นทรัลเวิลด์” ห้างใหญ่ใจกลางกรุง เหตุระทึกขวัญที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ใช่อาถรรพ์ที่ดิน หรือแค่เรื่องบังเอิญ
จากกรณีเกิดเหตุ ไฟไหม้เซ็นทรัลเวิลด์ ในช่วงเย็นของวันที่ 3 ธ.ค.65 จากการตรวจสอบพบต้นเพลิงอยู่บริเวณใกล้เคียงกับต้นคริสต์มาสที่ทางห้างจัดประดับตกแต่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการดับเพลิงและระบายควัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย
ทั้งนี้ ทำให้ประชาชนที่ใช้บริการภายในห้างและประชาชนที่เดินอยู่บริเวณย่านสยามและราชประสงค์ต่าง ตกใจ ซึ่งขณะนี้ ประชาสัมพันธ์ทางห้าง ยืนยันว่าเหตุการณ์สงบแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนกับเหตุการณ์ที่เกิดเป็นอย่างมาก นั้นเกี่ยวกับเรื่องระบบความปลอดภัยที่ไม่มีสัญญาณเตือนไฟไหม้และไม่มีน้ำไหลจากสปริงเกอร์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลูกค้าที่อยู่ในศูษย์การค้านั้นวิ่งกันชุลมุนและตะโกนบอกกันเองว่า ขณะนั้นเกิดเหตุไฟไหม้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ย้อนรอยเหตุการณ์
สำหรับ ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางแยกราชประสงค์ สร้างขึ้นในปี 2532 ภายใต้ชื่อของ เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เป็นพื้นที่สำคัญทางธุรกิจและเป็นจุดที่ใช้จัดกิจกรรมสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ มายาวนาน อย่างไรก็ตามเราย้อนรอยกลับไปเหตุการณ์ในอดีต เซ็นทรัลเวิลด์ ถือได้ว่าเป็นห้างที่เคยมีประวัติความสูญเสียมาหลายต่อหลายครั้ง จนถึงปัจจุบันเกิดเหตุไฟไหม้เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา
ย้อนเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งสำคัญของห้างเซ็นทรัลเวิลด์
ปี 2553
- 19 พฤษภาคม เกิดเหตุการณ์ชุมนุมที่บริเวณแยกราชประสงค์ ในขณะนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีขณะนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่ ส่งผลให้เกิดความกดดันขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม จนนำมาซึ่งการจุดไฟเผา เซ็นทรัลเวิลด์ บางส่วน เหตุการณ์ “ไฟไหม้เซ็นทรัลเวิลด์” ในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 8 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของทางห้าง
ปี 2554
- 20 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ห้างสรรพสินค้าเซน บริเวณชั้น 11 ปัจจุบันปิดให้บริการไปแล้ว โดยพื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงหลังจากที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ “ไฟไหม้เซ็นทรัลเวิลด์” เมื่อปี 2553 เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ภายใน 15 นาที เหตการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ปี 2558
- 17 สิงหาคม เวลา 18.55 น. เกิดเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ใกล้กับห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน และบาดเจ็บ 130 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวซึ่งมาเยี่ยมชมศาลท้าวมหาพรหม โดยพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มชาวต่างชาติ
ปี 2560
- 19 สิงหาคม เกิดเหตุการณ์ “ไฟไหม้เซ็นทรัลเวิลด์” อีกครั้งหลังจากผ่านไปนานกว่า 6 ปี เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงบ่าย บริเวณเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 6 ของห้าง เซ็นทรัลเวิลด์ ตรวจสอบพบต้นเพลิงอยู่ที่ห้องครัวของ ร้านฮั่วเซงฮง ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ของห้างได้ใช้น้ำยาเคมี สกัดกั้นกลุ่มควัน-เพลิงอยู่ทำให้ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
ปี 2562
- 10 เมษายน เกิดเหตุไฟไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจให้แก่ประชาชนทั่วไปอย่างมาก เนื่องจากมีคนกระโดดลงมาจากตึก เพื่อหนีไฟจนเสียชีวิต ขณะนี้เกิดเหตุมีการประเมินว่า จุดต้นเพลิง คือ ห้องปั๊มน้ำ ชั้นใต้ดิน B2 ก่อนกลุ่มควันจะถูกระบายไปตามช่องอากาศขึ้นไปยังชั้นต่าง ๆ จนไปถึงชั้น 8 เหตุเพลิงไหม้ ครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 20 ราย
ปี 2565
- 3 ธันวาคม “ไฟไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์” ครั้งล่าสุด ต้นเพลิงอยู่บริเวณ ซุ้มถ่ายรูปบริเวณใต้บันไดเลื่อนชั้น 1 ฝั่งโซน Groove โดยซุ้มถ่ายรูปมีการติดไฟประดับซึ่งคาดว่าเกิดไฟฟ้าลัดวงจรที่ไฟประดับจนทำให้ลุกไหม้ โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ภายใน 10 นาที ส่งผลให้เหตุการณ์ครั้งนี้ไร้คนบาดเจ็บ และเสียชีวิต ก่อนที่หลังจากนั้นทางห้างสรรพสินค้าได้แจ้งว่ากลับมาเปิดให้บริการตามปกติ
ประวัติที่ดิน
พื้นที่ของศูนย์การค้าเป็นที่ตั้งเดิมของพระราชวังปทุมวัน และต่อมาเป็นวังเพ็ชรบูรณ์ วังที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราไชย ภายหลังเจ้าของวังสิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ. 2466 ไปได้ 9 ปี ในปี พ.ศ. 2475 เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง วังหลายแห่งถูกคณะราษฎรยึดไปเป็นสมบัติของรัฐบาล รวมถึงวังเพ็ชรบูรณ์ด้วย แต่อยู่ในกรรมสิทธิ์ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 บริษัท วังเพชรบูรณ์ จำกัด โดยนายอุเทน เตชะไพบูลย์ ได้ขอเช่าที่ดินผืนนี้เพื่อก่อสร้างศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในชื่อ เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
อาถรรพ์ของที่ดินผืนนี้นั้น นายไพศาล พืชมงคล ทนายความนักโหราศาสตร์ เล่าว่า ที่ดินของเซ็นทรัลเวิลด์ มีการสาปแช่งจากเจ้าของเก่า คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ที่ทรงไม่อยากให้ผู้ที่ได้ครอบครองที่ดินผืนนี้เป็นผู้อื่นที่ไม่ใช่ลูกหลาน จึงทำการสาปแช่งเอาไว้ว่า หากผู้ที่ครอบครองมิใช่ลูกหลานก็ให้ฉิบหาย แต่หากไปสร้างศาลเจ้าพ่อเสือในที่ดินแปลงหนึ่งที่รังสิต ก็จะยกเว้นไม่ต้องคำสาป
ทั้งนี้เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณที่ตั้งเซ็นทรัลเวิลด์ ทั้งหมดเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ทางการเมือง และอยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคนจะมองว่าเป็นอาถรรพ์หรือเป็นเหตุบังเอิญ ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณ
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY
