88 ปี วันการเปลี่ยนแปลงการปกครอง : “ณ ที่นี้ 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่ง คณะราษฎร ได้ก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญ เพื่อความเจริญของชาติ”
วันการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 หรืออดีตวันชาติ คือ วันที่ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และครบรอบ 88 ปีในวันนี้ ไบร์ท ทูเดย์ จึงพาย้อนไทม์ไลน์ไปดูอดีตว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง
พ.ศ. 2454 กบฏ ร.ศ. 130
ประเทศไทยในปีพ.ศ. 2454 เป็นช่วงเวลาแห่งการปฏิรูปประเทศให้ทันสมัยทัดเทียมกับชาติอื่นๆ แต่กระนั้น ภายใต้การปกครองของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว การปฏิรูปรัฐธรรมนูญกลับเป็นไปอย่างเชื่องช้า และสร้างความไม่พอใจในหมู่คนหัวก้าวหน้าและเสรีนิยม จึงเกิดความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองและล้มล้างระบอบเก่าและแทนที่ด้วยระบบรัฐธรรมนูญตะวันตกที่ทันสมัย แต่การปฏิวัติดังกล่าวล้มเหลวและผู้ก่อการถูกจำคุก ประวัติศาสตร์ไทยจึงจารึกกลุ่มผู้เปลี่ยนแปลงนี้ไว้ว่า กบฏ ร.ศ. 130 และอาจกล่าวได้ว่ากบฏ ร.ศ. 130 เป็นแรงขับดันให้คณะราษฎรปฏิวัติ
ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้เป็นพระเชษฐาจึงได้ขึ้นครองราชย์ และทรงสืบราชสมบัติท่ามกลางบ้านเมืองที่ระส่ำระส่ายทางการเงิน เนื่องจากการใช้จ่ายอันฟุ่มเฟือยของเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ในรัชสมัยก่อน จึงเกิด “อภิรัฐมนตรีสภา” ขึ้นเพื่อเร่งแก้ปัญหานั้น สภาถูกครอบงำด้วยเจ้านายเก่าแก่ซึ่งยึดกรอบความคิดแบบโลกเก่าจึงทำให้ประเทศยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร ขณะเดียวกัน นักเรียนหัวก้าวหน้าที่เรียนจบจากต่างประเทศก็ได้กลับมายังประเทศไทย และเห็นความล้าหลังนั้น
พ.ศ. 2469
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 คณะราษฎร ประกอบด้วยกลุ่มบุคคลผู้ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีการประชุมครั้งแรกที่บ้านพักเลขที่ 9 ถนนซอเมอราร์ (Rue Du Sommerard) ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ประชุมมีมติตกลงเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่ใต้กฎหมาย โดยตกลงที่ใช้วิธีการ “ยึดอำนาจโดยฉับพลัน” รวมทั้งพยายามหลีกเลี่ยงการนองเลือด เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นแล้วในการปฏิวัติฝรั่งเศสและการปฏิวัติรัสเซีย ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการถือโอกาสเข้ามาแทรกแซงจากมหาอำนาจบริเตนและฝรั่งเศสที่มีดินแดนติดกับสยามในเวลานั้น
พ.ศ. 2473 เมื่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีทล่ม และ ความล่มสลายทางเศรษฐกิจมาถึงสยาม
สถานการณ์เศรษฐกิจโลกหนักหนาเกินกว่าประเทศจะรับได้ เมื่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีทล่มและความล่มสลายทางเศรษฐกิจมาถึงสยามในที่สุด พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสนอให้จัดเก็บภาษีรายได้ทั่วไปและภาษีอสังหาริมทรัพย์เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของคนยากจน แต่นโยบายดังกล่าวถูกสภาปฏิเสธอย่างรุนแรง ซึ่งสภาเกรงว่าทรัพย์สินของพวกตนจะลดลง สภาหันไปลดค่าตอบแทนของข้าราชการพลเรือนและลดงบประมาณทางทหารแทน ทำให้อภิชนผู้ได้รับการศึกษาในประเทศส่วนใหญ่โกรธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่านายทหาร
พ.ศ. 2474
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ลาออก พระองค์เจ้าบวรเดชมิใช่สมาชิกอภิรัฐมนตรีสภา คาดว่าเป็นเพราะเหตุความไม่ลงรอยกับสภาเรื่องการตัดงบประมาณนำไปสู่การลาออกนี้ และ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงยอมรับว่าพระองค์ทรงขาดความรู้การคลังอย่างเปิดเผย พยายามต่อสู้กับเจ้านายที่อาวุโสกว่าในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ง่ายเลย
พ.ศ. 2475
ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 24 มิถุนายน คณะราษฎรประกาศ เปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทย จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นระบอบประชาธิปไตย บริเวณลานพระราชวังดุสิตหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม โดยมีพระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นหัวหน้าคณะราษฎร ในวันนั้นพระยาพหลพลพยุหเสนาปีนขึ้นไปบนยอดรถหุ้มเกราะคันหนึ่งและอ่านประกาศคณะราษฎร ซึ่งเป็นแถลงการณ์ประกาศถึงจุดจบของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชและการสถาปนารัฐอันมีรัฐธรรมนูญขึ้นในสยาม
จากนั้นในวันที่ 27 มิถุนายน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ลงพระปรมาภิไธยในธรรมนูญการปกครองประเทศ โดยทรงเพิ่มคำว่า “ชั่วคราว” ต่อท้ายธรรมนูญการปกครองประเทศ ซึ่งปรีดี พนมยงค์เป็นผู้ร่าง และเกิด รัฐธรรมนูญฉบับถาวรฉบับแรก วันที่ 10 ธันวาคม ในปีเดียวกัน และประเทศไทยมีการ เลือกตั้งครั้งแรก ในเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2476