สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่ง 2.1% ปิดที่ 64.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล กังวลอุปทานน้ำมันตลาดโลกตึงตัวจากเหตุการณ์สู้รบในลิเบีย ขณะที่กำลังผลิตน้ำมันกลุ่มโอเปกต่ำสุดในรอบ 4 ปี
เมื่อคืนวันจันทร์ (8 เม.ย.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนพ.ค. ปิดที่ 64.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.32 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 2.1% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดที่ 71.10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.76 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 1.1%
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 2% แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนหรือนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2561 หลังจากมีการคาดการณ์ว่า เหตุการณ์สู้รบในลิเบียจะขัดขวางการส่งออกน้ำมันของลิเบีย และทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัว โดยล่าสุดกองกำลังฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลกำลังเคลื่อนเข้าใกล้กรุงทริโปลีแล้ว
ขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก รวมทั้งการที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านและเวเนซุเอลา ทั้งนี้ ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา กำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกลดลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งเป็นผลจากการที่ซาอุดีอาระเบียลดการผลิตน้ำมันมากกว่าที่ตกลงกันไว้
อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตน้ำมันของรัสเซียเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11.16 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 12.2 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนมี.ค.
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 9 เม.ย.ว่า ราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนวันจันทร์ (8 เม.ย.) ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5เดือน เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์อุปทานน้ำมันดิบโลกจะตึงตัวจากการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียที่ลดลง หลังกองกำลังติดอาวุธจากภาคตะวันออกของลิเบียได้ส่งเครื่องบินรบเข้าโจมตีสนามบินของเมืองตริโปลี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของลิเบีย
ขณะที่รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบียได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ยังเร็วเกินไปที่ประเทศสมาชิกทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกจะตัดสินใจยืดระยะเวลาปรับลดกำลังผลิตน้ำมันดิบออกไปจนถึงสิ้นปี แต่ให้จับตามองการประชุมระหว่างรัฐมนตรีแต่ละประเทศของสมาชิกทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก (JMMC) ที่จะจัดในเดือน พ.ค. 62 เนื่องจากผลการประชุมครั้งนี้จะเป็นจุดตัดสินใจสำคัญที่จะบ่งบอกว่าจะมีการยืดระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปหรือไม่
อย่างไรก็ดี รัสเซียจะเสนอให้มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบขึ้นในการประชุมกลุ่มโอเปกในเดือน มิ.ย.2562 โดยรัสเซียมองว่าการปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 228,000 บาร์เรล/วัน เป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับรัสเซีย