สัญญาน้ำมันดิบ WTI บวก 0.6% ปิดที่ 58.61 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขานรับโอเปกขยายเวลาลดกำลังผลิต อุปทานน้ำมันตึงตัวจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน-เวเนซุเอลา ขณะที่นักลงทุนกังวลความไม่แน่นอนข้อตกลงยุติสงครามการค้า
เมื่อคืนวันพฤหัส (14 มี.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดที่ 58.61 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.35 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.6% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนพ.ค. ปิดที่ 67.23 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.32 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.5%
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการที่กลุ่มโอเปกและพันธมิตรเดินหน้าลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ตามข้อตกลงเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่มาตรการคว่ำบาตรสหรัฐที่มีต่ออิหร่านและเวเนซุเอลา รวมทั้งวิกฤติการเมืองและเศรษฐกิจในเวเนซุเอลา ส่งผลให้อุปทานน้ำมันตึงตัวขึ้น
สัญญาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากรายงานสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 มี.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า จีนและสหรัฐเตรียมเลื่อนการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ออกไปเป็นเดือนหน้า จากเดิมที่จะมีการประชุมในเดือนนี้
ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพฤหัสว่า การตกลงทางการค้ากับจีน อาจจะรู้ในอีก 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งอาจมีหนึ่งทางหรือทางอื่นก็ได้
ขณะเดียวกัน มีรายงานจากทางการจีนในสัปดาห์นี้ว่า การใช้น้ำมันดิบของโรงกลั่นน้ำมันของจีนในช่วง 2 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 12.68 ล้านบาร์เรล/วัน
บมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 15 มี.ค. ว่า ราคาน้ำมันดิบเมื่อวานนี้ (14 มี.ค.)เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังกลุ่มโอเปกได้ปรับลดอุปสงค์น้ำมันดิบของโอเปกในปี 2562 ลง 130,000 บาร์เรล/วัน ลงแตะระดับ 30.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่ได้คาดการณ์การผลิตของผู้ผลิตนอกกลุ่มเพิ่มขึ้นจากเดิม 60,000 บาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ หากกลุ่มโอเปกยังคงระดับการผลิตเท่ากับเดือน ก.พ. 62 อุปทานน้ำมันโลกจะยังคงมากกว่าอุปสงค์ โดยตลาดคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกพร้อมที่จะเจรจากับพันธมิตรนอกกลุ่มโอเปก เพื่อขยายระยะเวลาข้อตกลงลดกำลังการผลิตออกไป เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจโลก หลังประธานาธิบดีของสหรัฐเผยว่า การเจรจาเพื่อยุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเป็นไปได้ด้วยดี แต่ยังจะไม่รีบร้อนที่จะบรรลุข้อตกลง
ส่วนสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ได้ส่งผลทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ล่าสุดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของจีน ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2562 ได้ปรับตัวเพิ่ม 5.3% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 17 ปี
นอกจากนี้ สหรัฐเตรียมที่จะออกมาตรการผ่อนปรนการคว่ำบาตรน้ำมันดิบของอิหร่านครั้งใหม่ หลังการผ่อนปรนรอบแรกจะสิ้นสุดลงในช่วงเดือน พ.ค.2562 นี้ โดยสหรัฐจะให้จีนและอินเดีย ผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ ยังคงซื้อน้ำมัน ดิบจากอิหร่านได้ แต่สหรัฐได้ตั้งเป้าหมายให้การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านปรับลดลง 250,000 บาร์เรล/วันลงไปแตะระดับต่ำกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน
บมจ.ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI เคลื่อนไหวในกรอบ 56-61เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล