กรมขนส่งทางบก ลงพื้นที่สำรวจวิน รถตู้โดยสารสาธารณะ พร้อมสั่งตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และมีรถเมล์เสริมเพื่อรองรับความต้องการของประชาชน
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ลงพื้นที่ติดตามและประเมินสถานการณ์การให้บริการของรถตู้โดยสารสาธารณะให้สามารถรองรับและเพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชน ตามแผนการรองรับเพื่อการติดตามและแก้ไขปัญหาการเดินรถตู้โดยสารประจำทาง
นายพีระพล กล่าวว่า ตั้งแต่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาการให้บริการยังเป็นไปตามปกติทางผู้ประกอบการก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นและเตรียมความพร้อมเพิ่มเที่ยววิ่ง รวมถึงได้มีการประสานกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) แก้ปัญหาโดยเตรียมจัดรถโดยสารปรับอากาศเพื่อให้บริการแทนรถตู้โดยสารเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่เคยใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะดังกล่าว โดยในส่วนของเส้นทางที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมากทาง ขสมก.จะพิจารณาเพิ่มจำนวนรถโดยสารให้เพียงพอต่อความต้องการใช้บริการต่อไป ขณะที่การจัดเก็บค่าโดยสารยังเป็นไปตามอัตราเดิมที่ผู้ใช้บริการชำระในการเดินทางด้วยรถตู้โดยสาร
ทั้งนี้ ทางกรมการขนส่งทางบกได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ขสมก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาบริการรถตู้เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งกรมขนส่งทางบกได้มีการส่งผู้ตรวจการสังเกตการณ์ทุกพื้นที่ โดยหากพบว่าวินรถตู้ใดรถขาดระยะให้บริการก็ให้เสริมรถเมล์ ขสมก.เข้าบริการทดแทนทันที สำหรับกรณีรถตู้โดยสารประจำทางที่วิ่งเส้นทางในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 20 เส้นทาง ซึ่งได้ครบกำหนดอายุ 10 ปี ในวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา และจะหยุดวิ่งให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ พบว่าในปี 2560 – 2561 จะมีรถตู้ที่หมดอายุการใช้งานจำนวนรถ 954 คัน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นรถตู้ซึ่งจะครบอายุการใช้งาน 10 ปี เพียง 584 คัน
อย่างไรก็ตามทาง ขสมก.ได้จัดรถตู้โดยสารที่ให้บริการในเส้นทางอื่นที่มีปริมาณรถมากแบ่งมาเสริมในเส้นทางที่มีรถตู้ไม่เพียงพอตามสัดส่วน พร้อมทั้งจัดรถโดยสารปรับอากาศจำนวน 65 คัน เพื่อสำรองให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารในทันทีที่รถตู้มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยสำรองในพื้นที่ทั้ง 4 จุด เริ่มตั้งแต่เวลา 05.30 น. ของวันที่ 1 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบกได้จัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จรถตู้โดยสารประจำทาง ณ บริเวณอาคาร 3 ชั้น 1 อำนวยความสะดวกให้คำปรึกษาแนะนำกรณีรถตู้โดยสารประจำทางจะครบกำหนดอายุ 10 ปี และขั้นตอนการจดทะเบียนรถแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One stop service) เพื่อช่วยเหลือเจ้าของรถในกรณีที่มีความประสงค์ที่จะทำการเปลี่ยนรถทดแทนรถคันเดิมที่หมดอายุให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งจากตัวเลขการขอเปลี่ยนรถตู้ใหม่ที่ครบอายุการใช้งานขณะนี้พบว่า เจ้าของรถตู้คันเดิมได้แจ้งความประสงค์และยื่นขอเปลี่ยนรถกับ ขสมก.แล้วจำนวน 391 คัน
ขอบคุณภาพ กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News