คุมตัว 2 ผัวเมีย จี้ชิงรถยนต์สาวร้านเสริมสวย ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ อ้างลงมือก่อเหตุเพราะต้องการรถพาลูกไปโรงพยาบาล
พันตำรวจเอกจำรัส จันแดง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านไผ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านไผ่ คุมตัวนายนนท์นริศ เนตรประชา อายุ 35 ปี และนางสาวพรศิริ เพ็งไร่ขิง อายุ 28 ปี ชาวอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ผู้ต้องหาในคดีใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถยนต์ของนางสาวรัตนา วิชาศรี อายุ 25 ปี สาวร้านเสริมสวย ภายในสถานีบริการน้ำมัน ริมถนนมิตรภาพ บ้านเกิ้ง ตำบลบ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยจุดแรกนายนนท์นริศ ได้พาตำรวจไปชี้จุดที่ตนเองและภรรยา ได้ไปชำระล้างตัวบริเวณก๊อกน้ำด้านหลังห้องสุขาหญิงภายในสถานีบริการน้ำมัน หลังจากร่างกายของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน
มีคราบดินโคลนเปื้อนตามร่างกาย จากการขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ที่ผู้ต้องหาขโมยมาที่จังหวัดนครปฐม เสียหลักลงข้างทางในพื้นที่อำเภอโนนศิลา เขตรอยต่ออำเภอบ้านไผ่
จากนั้น ผู้ต้องหาได้พาเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดทำแผนในจุดที่ 2 คือที่บริเวณม้านั่งหน้าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาพร้อมลูกวัย 3 ขวบ นั่งรอผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ เพื่อจะกลับมาขึ้นรถ ผู้ต้องหาได้เข้าไปพูดคุย โดยขอให้ผู้เสียหายไปส่งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอบ้านไผ่ โดยเสนอค่าตอบแทน เป็นเงิน 500 บาท แต่ด้วยความสงสารผู้เสียจึงอาสาไปส่งโดยไม่คิดค่าตอบแทน จากนั้นผู้ต้องหาทั้งหมด จึงขึ้นไปนั่งบนเบาะด้านหลังคนขับ ก่อนที่รถจะขับออกไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปทำแผนในจุดที่ 3 ที่บริเวณถนนมิตรภาพ ห่างจากสถานีบริการน้ำมันประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่นายนนท์นริศ ผู้ต้องหา ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาออกมาจี้ชิงรถยนต์ของผู้เสียหาย ก่อนที่ผู้เสียหายจะยอมลงจากรถยนต์ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามในเวลาต่อมา
นายนนท์นริศ ให้การรับสารภาพว่า ตนและภรรยาพร้อมลูกวัย 3 ขวบ เดินทางมาจากจังหวัดนครปฐมโดยรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งรับว่าเป็นรถยนต์ที่โจรกรรมมาจริง ขณะขับมาในพื้นที่อำเภอโนนศิลา ได้เกิดรถเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง ทำให้ตนเอง ภรรยา และลูกได้รับบาดเจ็บ จากนั้นจึงเดินทางต่อมายังอำเภอบ้านไผ่โดยอาศัยโบกรถประจำทาง กระทั่งมาถึงสถานีบริการน้ำมัน จึงพากันมาชำระล้างร่างกายที่เปลอะเปื้อน จากนั้นจึงพากันไปนั่งรอเหยื่ออยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ จนกระทั่งพบเหยื่อสาว
หลังจากที่รถวิ่งออกไปได้ประมาณ 1 กิโลเมตร ตนจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาจี้ที่บริเวณคอของหญิงสาว พร้อมกับบอกว่า ให้ลงจากรถไป เพราะตนต้องการเพียงรถยนต์ ไม่ได้ต้องการอย่างอื่น โดยยืนยันว่าต้องการนำรถเพื่อพาลูกไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการป่วยโรคลมชักเท่านั้น ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม
พันตำรวจเอกจำรัส กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติ ผู้ต้องหาโดยเฉพาะนายนนท์นริศ ถูกตำรวจจังหวัดนครปฐมออกหมายจับในคดีลักทรัพย์นายจ้างมาก่อน และคดีชิงทรัพย์รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ คันที่ประสบอุบัติเหตุ เบื้องต้นตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อกล่าวหากับสองสามีภรรยา คือ ข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไป ในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร