บอร์ดบีโอไออนุมัติมาตรการส่งเสริมลงทุนระบบราง รองรับ “รถไฟทางคู่-รถไฟฟ้า-รถไฟความเร็วสูง” กว่า 6,000 กม. หากยื่นขอส่งเสริมฯภายในปี 64 จะได้ลดภาษีนิติบุคคล 50% นาน 3-5 ปี
เมื่อวันที่ 11 ม.ค. น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติอนุมัติมาตรการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมระบบรางและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการพัฒนารถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะมีการพัฒนาระบบรางรวมกันมากกว่า 6,000 กิโลเมตร และตู้โดยสารนับหมื่นตู้
พร้อมกันนั้น บอร์ดบีโอไอได้อนุมัติมาตรการพิเศษเพื่อเร่งรัดการลงทุนอุตสาหกรรมระบบราง โดยให้กิจการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนภายในวันที่ 30 ธ.ค.2564 จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นระยะเวลา 3-5 ปี นับจากวันสิ้นสุดการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของโครงการ ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากเกณฑ์ปกติ
“หากเป็นการลงทุนตั้งโรงงานในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีเพิ่มจาก 3 ปีเป็น 5 ปี โดยเฉพาะในจ.ขอนแก่นและจ.นครราชสีมา ซึ่งผลการศึกษาของกระทรวงคมนาคมพบว่ามีความเหมาะสม อีกทั้งเป็นพื้นที่ที่มีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนยานยนต์และแปรรูปโลหะอยู่แล้ว”น.ส.ดวงใจกล่าว
สำหรับประเภทกิจการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางฯ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ได้แก่ การผลิตชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์สำหรับระบบรางที่เป็นชิ้นส่วนสำคัญ และการผลิตชิ้นส่วนและ/หรือระบบสนับสนุนที่จำเป็น เช่น การผลิตโครงสร้างหลัก ตู้โดยสาร ห้องควบคุมรถและอุปกรณ์ โบกี้ ระบบห้ามล้อและ/หรือชิ้นส่วนสำคัญ ระบบไฟฟ้าและระบบจ่ายไฟฟ้า ระบบควบคุมและระบบอาณัติสัญญาณ รางและชิ้นส่วนราง เป็นต้น รวมทั้งการออกแบบทางวิศวกรรม
น.ส.ดวงใจ กล่าวว่า บอร์ดบีโอไอยังอนุมัตินโยบายส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยกำหนดประเภทกิจการที่จะได้รับการส่งเสริมฯเพิ่มเติมจากปัจจุบัน ได้แก่ 1.กิจการท่าเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ (CRUISE TERMINAL และ2.กิจการสร้างแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งปรับปรุงแก้ไขขอบประเภทกิจการ และเงื่อนไขการส่งเสริมลงทุนเดิม อาทิ กิจการพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ในเมืองรองต่างๆ
นอกจากนี้ บอร์ดบีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุนในการขยายกิจการผลิตพาราไซลีนของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) วงเงิน 35,960 ล้านบาท โดยกิจการดังกล่าวตั้งอยู่ที่เขตอุตสาหกรรมของบริษัท จ.ระยอง
น.ส.ดวงใจ ยังกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการให้กระทรวงการคลังช่วยดูเกี่ยวกับมาตรการภาษี เพื่อสร้างแรงจูงใจแก่ภาคเอกชน และมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมความพร้อมในเรื่องมาตรฐานต่างๆ อาทิ การดูแลการกำจัดของเสียภายในโรงงานอุตสาหกรรมทั้ง โดยเฉพาะน้ำเสียและปัญหาขยะตามกฎหมายรองรับ พร้อมทั้งย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว ทั้งปาล์ม ยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย และมะพร้าว