วันนี้ (30 ต.ค.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จ.เชียงราย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะอ่านคำวินิจฉัยในวันพรุ่งนี้ ( 31 ต.ค.) เกี่ยวกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี หลังจากภรรยาถือหุ้นบริษัทเอกชนเกิน 5% โดยไม่แจ้ง ป.ป.ช. ตามระยะเวลาที่กำหนด ว่า เป็นเรื่องของเรา ที่ต้องไปเอง แต่ไม่ใช่เป็นการแถลงปิดคดี เพราะตนได้ส่งเรื่องไปหมดแล้ว ขอให้รอดูวันที่ 31 ต.ค.แล้วกัน
โดย นายดอน กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่ว่าจะกังวล หรือไม่กังวล เมื่อศาลกำหนดแล้วว่า จะมีการพิจารณา ก็ต้องว่ากันไปตามนั้น และคงไม่ต้องเตรียมตัวอะไร
สำหรับกรณีนี้เมื่อวันที่ 1พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ยื่นคำร้องขอให้ กกต. ตรวจสอบการถือครองหุ้นสัมปทานของรัฐมนตรี 9 คน ซึ่งที่ผ่านมาได้พิจารณาจนยุติเรื่องไปแล้ว 8 คน และเห็นว่า กรณีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีปัญหาขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากคู่สมรสถือครองหุ้นในธุรกิจอยู่เกินกว่าร้อยละ 5 และไม่มีการแจ้งต่อ ป.ป.ช.ภายในกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด
ต่อมาเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเสียงข้างมากเห็นว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากคู่สมรสถือครองหุ้นในธุรกิจอยู่เกินกว่า 5% แล้วไม่แจ้ง ป.ป.ช.ภายในเวลาที่กำหนด จนอาจเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี โดย กกต.ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายยกร่างคำร้องเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย