“ปลัดพลังงาน” คาดการเดินเครื่องผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยจะกลับสู่ภาวะปกติ 7 ม.ค.นี้ หลังพายุ “ปาบึก” ไม่สร้างผลกระทบรุนแรง
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า หลังจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” พัดผ่านแหล่งผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยแล้ว พบว่าไม่ได้สร้างผลกระทบรุนแรงมากนัก โดยหลังวันที่ 5 ม.ค. แหล่งผลิตปิโตรเลียมต่างๆในพื้นที่ภาคใต้ จะทยอยส่งเจ้าหน้าที่กลับเข้าไปทำงานตามปกติ ก่อนจะเริ่มผลิตปิโตรเลียมอีกครั้งในวันที่ 6 ม.ค. และคาดว่าในวันที่ 7 ม.ค.นี้ การผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในอ่าวไทยน่าจะกลับเข้าสู่ระดับปกติ
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้สั่งการให้กรมธุรกิจพลังงานดูแลเข้มงวดสถานีบริการน้ำมันต่างๆในพื้นที่ภาคใต้และพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อไม่ให้มีการกักตุนน้ำมัน และให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำรองเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล เพื่อเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ ขณะที่ ปตท.มีหน้าที่ดูแลเรื่องของเชื้อเพลิงทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไม่ให้ขาดแคลน
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก ได้สำรองน้ำมันเชื้อเพลิงในทุกสถานีบริการ เพื่อป้องกันการขาดแคลน ขณะที่ปตท.ได้ส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว อ.มาบตาพุด จ.ระยอง ไปทดแทนปริมาณก๊าซที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งมีแผนนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ
ด้าน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ขอแจ้งว่า พายุโซนร้อนปาบึก (PABUK) ในบริเวณอ่าวไทย ได้เคลื่อนตัวผ่านแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติของ ปตท.สผ. ในอ่าวไทยไปแล้วเมื่อเช้าวันนี้ (4 ม.ค.) โดยพนักงานและผู้รับเหมาทุกคนปลอดภัย
ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้ส่งพนักงานชุดแรกเข้าสำรวจพื้นที่แท่นผลิตก๊าซฯบงกช เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการผลิตแล้ว ก่อนที่จะส่งพนักงานและผู้รับเหมาที่เหลือทั้งหมดกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่แท่นผลิตก๊าซฯต่อไป ในขณะเดียวกันได้เริ่มเคลื่อนย้ายแท่นเจาะและเรือสนับสนุนต่างๆกลับเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการ โดยคาดว่า จะสามารถกลับมาเริ่มผลิตก๊าซฯ จากแหล่งบงกชได้ในวันที่ 6 มกราคม 2562 ในส่วนของแท่นผลิตก๊าซฯอาทิตย์ ยังคงดำเนินการผลิตก๊าซฯ ได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ