ม.หอการค้าไทย ประเมินผลกระทบพายุ “ปาบึก” ไม่ยืดเยื้อ แต่จะกระทบต่อเศรษฐกิจภาคใต้ 3-5 พันล้านบาท ขณะที่ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค.ร่วงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 กังวลสงครามการค้า-นักท่องเที่ยวจีนลด
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึกที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคใต้ของไทยนั้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของภาคใต้ในช่วงสั้นๆ และไม่ยืดเยื้อ คือ น่าจะอยู่ในช่วง 3-5 วัน ขณะที่ค่าใช้จ่ายประจำวัน ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว การยกเลิกเที่ยวบินและโรงแรม ที่พักต่างๆ ที่จะหายไปในช่วงดังกล่าวคาดว่าจะอยู่ที่ 3,000-5,000 ล้านบาท
ส่วนการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจากวันที่ 24 ก.พ.2562 นั้น หากการเลือกตั้งยังอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ หรือไม่เกินเดือนเม.ย. น่าจะไม่มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย และหากการเลื่อนการเลือกตั้งมีเหตุผลที่ชี้แจงได้ชัดเจน เชื่อว่านานาชาติและนักลงทุนจะรับฟัง
นายธนวรรธน์ ยังกล่าวถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.2561 ว่า อยู่ที่ 79.4 ลดลงจากเดือนพ.ย.2561 ที่อยู่ที่ 80.5 โดยดัชนีฯที่ ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เป็นผลจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า นักท่องเที่ยวจีนลดลง และราคาพืชผลการเกษตรยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 66.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่ 67.5 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 74.6 ลดลงจากเดือนก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่ 75.6 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 97.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่ 98.4
“ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 มาจากความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงสูงจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ และกรณีการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้”นายธนวรรธน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดัชนีฯเดือนธ.ค.2561 จะปรับตัวลดลง แต่เริ่มมีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น อาทิ ราคาพืชผลทางการเกษตรบางรายการที่ปรับตัวดีขึ้น เช่น ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สงครามการค้าที่มีแนวโน้มคลี่คลายหลังจากสหรัฐและจีนเริ่มมีการเจรจากัน ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านการยกเว้นค่าธรรมเนียม VISA on Arrival รวมทั้งมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ เช่น ช้อปช่วยชาติ เที่ยวเพื่อชาติ ขณะที่การเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้น จะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้
