หนุ่มเสี่ยเจ้าของร้านอาหารชื่อดังย่านคลองหกซิ่ งฟอร์ด เอเว่อร์เรต ชนสองผัวเมียเาัยชีวิต
กลางถนน อ้างผู้ตายขับรถย้อนศรอีก “ช่างน่าอนาถ”ในขณะลูกชายวัย 13ปีและลูกสาววัย 10 ขวบ ต่างเฝ้ารอพ่อและแม่ซื้อข้าวมาให้กิน แต่พ่อและแม่ยังไม่มา
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 23 ธันวาคม 2560 พ.ต.ท.ยุทธภูมิ โพธิอุดม สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรธัญบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคล ชนกับรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้า ห้างบิ๊กซีคลอง 6 ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลลำผักกูด อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบ ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ที่บริเวณศีรษะถูกกระแทกกับฟุตบาทข้างทาง จนมันสมองแตกกระจายทั่วพื้นถนน ทราบชื่อคือนายกิตติพัน์ จันทร์เจริญ อายุ 42ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 4 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นหัวหน้าแผนกช่างแบบ บริษัท พีพีเอส เซฟตี้กลาส จำกัด ย่านคลองเจ็ด ธัญบุรี
และหญิง 1 ราย หญิง สภาพศพคอ และ ขาท่อนล่างหัก ทราบชื่อต่อมาคือนางสาว ศุภิสรา กิจอุดม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/73 หมู่ 3 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซุกิ สีน้ำเงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพด้านท้ายพังยับเยิน บริเวณพื้นถนนเจ้าหน้าที่พบโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตตกอยู่ 1 เครื่อง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และตรวจสอบ ใกล้กันพบรถยนต์นั่ง ยี่ห้อ Ford Everestฟอร์ดเอเว่อร์เรต สีแดง หมายเลขทะเบียน 4กล-8519 กรุงเทพฯ สภาพด้านหน้ารถด้านซ้ายเสียหายพังยับเยิน และหม้อน้ำแตกกระจาย โดยมีนายนารินทร์ คุ้มแก้ว อายุ 43 ปี คนขับยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุลักษณะคล้ายคนดื่มสุรามา
จากการสอบถามนายนารินทร์ คุ้มแก้ว คนขับรถยนต์ Ford Everest ผู้ก่อเหตุบอกว่า ตนเองขับรถมาจากถนนเลียบคลองหก เพื่อจะกลับบ้านพัก ที่ติดกับห้างบิ๊กซีคลองหก จู่ๆก็มีรถจักรยานยนต์ ขับย้อนศรมาชนรถของตนเองอย่างแรง และทำให้ผู้ขับขี่และผู้ที่นั่งซ้อนท้ายกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง จนเป็นเหตุเสียชีวิต ซึ่งตนเองรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะวิ่งมาตามทางของเรา ทางเจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำอย่างละเอียด ที่โรงพักธัญบุรี เพื่อจะตรวจวัดแอลกอฮอล์ จนเวลาผ่านไปกว่า 4 ชม. แต่ว่านายนารินทร์ฯ ยังไม่ยอมมา พบทางเจ้าหน้าที่ และอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังรอเพื่อสอบปากคำผู้ก่อเหตุนั้น ได้ตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ตายว่า ครั้งสุดท้ายมีใครโทรเข้ามาบ้าง ก็พบหมายเลขที่โทรเข้ามาครั้งสุดท้าย เมื่อเวลา 23.40 น.ทางเจ้าหน้าที่จึงได้โทรย้อนกลับไปและ พบเป็นเสียงของเด็กชาย รับทราบชื่อคือเด็กชายณัฐพงษ์ คงเจริญอายุ 13 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของผู้ตาย และได้บอกว่า ตนเองรอพ่อและแม่ซื้อข้าวมาให้กินกับน้องสาวอายุ 10 ขวบ เห็นพ่อยังไม่มา และนานผิดปกติ จึงโทรศัพท์ไปหา แต่ไม่มีการรับสาย โดยที่เด็กทั้งสองยังไม่ทราบว่า พ่อและแม่ได้เสียชีวิต แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่กล้าบอกเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากเด็กทั้งสองได้อยู่ตามลำพังสองคน กลัวว่าจะสะเทือนจิตใจเด็กๆ และได้ติดต่อไปทางเพื่อนๆของผู้ตายให้ทราบเรื่องแล้ว
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และบันทึกภาพในที่เกิดเหตุเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง2ราย ได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง และจะได้ติดตามญาติผู้เสียชีวิตมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป