ราคาน้ำมันดิบ WTI บวกต่อเป็นวันที่ 9 ปิดที่ 52.59 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังซาอุฯเตรียมปรับลดกำลังผลิตในเดือนม.ค.ลง 8 แสนบาร์เรล/วัน
เมื่อคืนวันพฤหัส (10 ม.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนก.พ. ปิดที่ 52.59 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.23 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.4% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนมี.ค. ปิดที่ 61.68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.24 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.4%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 9 หลังจากนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบียประกาศว่า ซาอุดีอาระเบียจะปรับลดการผลิตน้ำมันในเดือนม.ค.ลงสู่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับ 8 ล้านบาร์เรล/วัน หรือลดลง 800,000 บาร์เรล/วัน และปรับลดการผลิตน้ำมันในเดือนก.พ.ลงอีก 100,000 บาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อในช่วงท้ายตลาด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดสามารถยืดหยุ่นและมีความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเฟดสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินตามขอบเขตที่สมควร หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มย่ำแย่ลง
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 11ม.ค. ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2562 ที่มีทิศทางบวก อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงไม่มั่นใจเนื่องจากยังขาดรายละเอียดที่ชัดเจนจากผลการประชุมดังกล่าว
ทั้งนี้ ตลาดมีความกังวลหลังรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือน ธ.ค.2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 1.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีนในเดือน ธ.ค.2561 ปรับเพิ่มเพียง 0.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า โดยปรับลดลงจากเดือน พ.ย. 61 และต่ำกว่าคาดการณ์ สะท้อนถึงภาวะเงินเฟ้อของจีนที่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 4 ม.ค.2562 ปรับลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮม่าปรับเพิ่มขึ้น 330,000 บาร์เรล
ทางด้านปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 8.1 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 10.6 ล้านบาร์เรล
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคานํ้ามันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคานํ้ามันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 57-62 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตามอง ได้แก่ 1.ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีน เพื่อหาข้อสรุปของข้อพิพาทการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 ม.ค. 62 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ส่งสัญญาณดีต่อตลาด เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ
2.ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มปรับลดลง โดยคาดว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียในเดือน ก.พ.2562 จะอยู่ที่ระดับ 7.1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งลดลงจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ม.ค. 62 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรล/วัน
และ3.ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดปรับเพิ่มขึ้น จากอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง สวนทางกับกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ซึ่งกลับมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในประวัติการณ์ หรือ 11.7 ล้านบาร์เรล/วัน