ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวกเล็กน้อย กังวลกรณี “ฝรั่งเศส” อายัดทรัพย์สิน 2 พลเมืองและหน่วยข่าวกรองอิหร่าน หลังเกี่ยวข้องแผนโจมตีกรุงปารีส ขณะที่ “รัสเซีย” ขอหารือกลุ่มโอเปก ก่อนตัดสินใจลดกำลังผลิตน้ำมัน
เมื่อคืนวานนี้ (19 พ.ย.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดบวก หลังกลุ่มรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) ออกมาสนับสนุนรัฐบาลฝรั่งเศสที่ตัดสินใจคว่ำบาตรอิหร่าน ด้วยการอายัดทรัพย์สินของพลเมืองชาวอิหร่าน 2 ราย และหน่วยงานข่าวกรองของอิหร่าน เนื่องจากเชื่อว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับแผนการโจมตีกรุงปารีสในช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
รายงานข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นมาปิดในแดนบวก หลังจากที่สัญญาน้ำมันร่วงลงในระหว่างวัน จากข่าวที่ว่ารัสเซียแสดงท่าทีลังเลในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง
โดยนาย Alexander Novak รมว.พลังงานรัสเซีย ระบุว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันควรจะจับตาปัจจัยอุปสงค์และอุปทานในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า ก่อนที่จะทำการตัดสินใจกำหนดระดับการผลิตน้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดที่ 56.76 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.3 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.5% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ปิดที่ 66.79 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.03 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.05%
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 66.05 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.31 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.47%
อย่างไรก็ดี นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในปีหน้า เพื่อสกัดการทรุดตัวของราคาน้ำมัน รวมถึงจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 2.30 น.ตามเวลาไทย
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 20 พ.ย. ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในปี 2562 ลง 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมกลุ่มโอเปกวันที่ 6 ธ.ค.นี้ โดยจะผลักดันให้ประเทศในกลุ่มสมาชิกร่วมมือกัน รวมถึงรัสเซียด้วย
ในขณะที่นาย Alexander Novak รมว.พลังงานรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียมีแผนที่จะลงนามในข้อตกลงกับทางโอเปก แต่ต้องการที่จะหารือในวันที่ 6 ธ.ค. เสียก่อน
นอกจากนี้ ตลาดกังวลปริมาณน้ำมันดิบส่งออกจากอิหร่าน เนื่องจากอียูสนับสนุนรัฐบาลฝรั่งเศสคว่ำบาตรพลเมืองอิหร่าน ซึ่งเกี่ยวข้องกับแผนวางระเบิดใกล้กรุงปารีสที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น
ขณะที่ Genscape รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐที่ปรับลดลงในสัปดาห์ก่อน ซึ่งสนับสนุนราคาน้ำมันดิบ WTI ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐที่อยู่ในระดับสูง และจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้น ยังคงกดดันสภาวะตลาดอย่างต่อเนื่อง
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 54-58 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 64-68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตามอง ได้แก่ การคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลง หลังผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและรัสเซีย จะหารือถึงการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในปี 2562 ,ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มถูกกดดันจากการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกที่ลดลง และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง