ราคาน้ำมันดิบบวก 2.1% หลังสต๊อกสหรัฐลดเกือบ 5 แสนบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 47.20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล บวก 2.1% เหตุสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงเกือบ 5 แสนบาร์เรล ตลาดห่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว-ความต้องการใช้น้ำมันลด หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25%

เมื่อคืนวันพุธ (19 ธ.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดบวก 2.1% หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 497,000 บาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ธ.ค. ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และเศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ส่วนการที่กลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก จะลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้า ยังไม่เพียงพอที่ทำให้ตลาดอยู่ในภาวะขาดแคลนน้ำมัน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ปิดที่ 47.20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.96 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 2.1% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.พ. ปิดที่ 57.24 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.98 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 1.7%

ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 54.99 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 2.06 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 3.61%

ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 20 ธ.ค. ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลัง EIA รายงานปริมาณน้ำมันดีเซลและอากาศยานคงคลังสหรัฐ ปรับตัวลดลง 4.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 573,000 บาร์เรล โดยอุปสงค์ของน้ำมันดีเซลและอากาศยานปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่ ม.ค.2546

ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ปรับตัวลดลง 497,000 บาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลงถึง 2.4 ล้านบาร์เรล โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ได้ปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดิบยังคงถูกกดดัน หลังธนาคารกลาง (เฟด) ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 2.5% ส่งผลให้ค่าเงินสหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจและลดความต้องการใช้น้ำมันลง

สำหรับปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากผู้ผลิตรายใหญ่ ประกอบด้วย สหรัฐ รัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย อยู่ในระดับใกล้เคียงปริมาณการผลิตสูงสุดของแต่ละประเทศ โดยกำลังการผลิตของรัสเซียในเดือน ธ.ค.2561 อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 11.42 ล้านบาร์เรล/วัน สูงกว่าสถิติการผลิตสูงสุดในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ระดับ 11.41 ล้านบาร์เรล/วัน

บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 55-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า