ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วง 2.5% ใกล้หลุด 50 ดอลล์ หลังรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 10 แตะระดับสูงสุดของปีนี้ ขณะที่ตลาดกังวล “โอเปก” เสียงแตกไม่ลดกำลังการผลิต
เมื่อคืนพุธ (28 พ.ย.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนของการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ หลังซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณว่าจะไม่ดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวในการปรับลดกำลังการผลิต ขณะที่ไนจีเรียปฏิเสธที่จะให้การยืนยันการลดกำลังการผลิตครั้งใหม่
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ปิดที่ 50.29 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1.27 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือลดลง 2.5% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนม.ค. ปิดที่ 58.76 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1.45 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 2.4%
ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 60.05 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 1.86%
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 29 พ.ย. ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลัง EIA รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 23 พ.ย. 61 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 769,000 บาร์เรล
การเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐดังกล่าว นับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 10 สัปดาห์ ไปอยู่ที่ระดับ 450 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในปีนี้ นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมาปรับเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
ขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับลดลง 857,000 บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันเบนซินสหรัฐ ปรับตัวลดลง 764,000 บาร์เรล สวนทางกับที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 640,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงกังวลถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร หลัง รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย ระบุว่าซาอุดิอาระเบียจะไม่ดำเนินการปรับลดกำลังการผลิตแต่เพียงฝ่ายเดียว เนื่องจากไนจีเรียแสดงความคิดเห็นว่าช่วงเวลานี้ยังคงเร็วไปที่จะตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิต
ก่อนหน้านี้ ตลาดคาดการณ์ว่าการตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกจะมีข้อสรุปในการประชุมของกลุ่มโอเปกในวันที่ 6 ธ.ค. นี้ ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
บมจ.ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 57-62 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตามอง ได้แก่ ความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกว่าจะมีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในปี 2562 หรือไม่ ,ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านในเดือนพ.ย.2561 ที่คาดว่าจะปรับตัวลดลง และปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐที่คาดว่าจะเริ่มปรับลดลง หลังโรงกลั่นส่วนใหญ่ในสหรัฐกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง