ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วง 1.4% นักลงทุนกังวลสต็อกน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ พุ่งสูงสุดนับแต่เดือน ธ.ค.2560 จับตา “รัสเซีย” เมินร่วมมือ “โอเปก” ลดกำลังการผลิต
บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 23 พ.ย. ว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย.สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดที่ 53.85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.78 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 1.4% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 62.60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.88 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 1.38% และน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 62.33 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.21 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.33%
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2560 ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดเกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข่าวการหารือของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ที่จะปรับลดกำลังการผลิตในปีหน้าลงราว 1-1.4 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับการผลิตเดือน ต.ค. 61 ในการประชุมกลุ่มโอเปกวันที่ 6 ธ.ค.นี้
ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 16 พ.ย.2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 446.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2560 นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐ ยังคงแตะระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 11.7 ล้านบาร์เรล/วัน
แม้ว่าผู้ผลิตกลุ่มโอเปกจะกำลังพิจารณาในการปรับลดกำลังการผลิตลง แต่ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกอย่างรัสเซียยังไม่มีทีท่าว่าจะเข้าร่วมการปรับลดกำลังการผลิตแต่อย่างใด ซึ่งถือเป็นการสร้างความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก
นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่านในเดือน พ.ย. ปรับตัวลดลง และมีแนวโน้มแตะระดับ 1 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากผู้ซื้อน้ำมันดิบได้ทำการซื้อน้ำมันดิบไว้ล่วงหน้า ก่อนที่สหรัฐจะผ่อนปรนให้ทั้ง 8 ประเทศยังสามารถนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านได้อีก 180 วัน
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 61-66 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตามอง ได้แก่ ความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกว่าจะมีการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่ หลังแหล่งข่าวเผยว่าผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกมีการพูดคุยเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตของปี 62 ลงสูงสุดถึง 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับการผลิตในเดือนต.ค.2561
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านในเดือนพ.ย.2561 ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวลดลง แม้ว่าสหรัฐจะประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศสามารถนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ โดยในสองสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าไม่มีการส่งออกน้ำมันจากอิหร่าน เนื่องจากได้มีการวางแผนซื้อน้ำมันดิบล่วงหน้าก่อนการประกาศผ่อนผัน
และปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะเริ่มปรับลดลง หลังโรงกลั่นส่วนใหญ่ในสหรัฐ กลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง