ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 2.6% หลุด 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านบาร์เรล กังวลเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัว
เมื่อคืนวันจันทร์ (17 ธ.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดลดลง 2.6% หลุดระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบกว่า 1 ปี หลังนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไปในสหรัฐ
Genscape ผู้ให้บริการข้อมูลด้านพลังงาน รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านบาร์เรล ในระหว่างวันที่ 11-14 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สหรัฐมีการผลิตน้ำมัน 11.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณชะลอตัว ล่าสุดสหรัฐเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงลงสู่ระดับ 56 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค.2558
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลกระทบจากการที่กลุ่มโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกเตรียมลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเริ่มลดกำลังการผลิตในเดือนม.ค.ปีหน้า แต่นักวิเคราะห์เห็นว่า การลดกำลังการผลิตดังกล่าว ไม่เพียงพอที่จะทำให้ตลาดอยู่ในภาวะขาดแคลน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ปิดที่ 49.88 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1.32 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 2.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.2560 และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ปิดที่ 59.61 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.67 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 1.1%
ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 58.79 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.71 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 1.19%
ด้านบจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 18 ธ.ค. ว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลงต่อ จากความกังวลปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาด
โดย EIA คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (shale oil) จะปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 8 ล้านบาร์เรล/วันภายในปีนี้ และอาจพุ่งไปถึง 8.73 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ม.ค 2562 นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบจากรัสเซียปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในเดือน ธ.ค. ที่ 11.42 ล้านบาร์เรล/วัน
ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันดิบ ณ จุดส่งมอบ Cushing, Oklahoma แตะระดับ 38.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบปีนับตั้งแต่ ม.ค.2561 และเป็นการปรับเพิ่มต่อเนื่องถึง 10 สัปดาห์ หลังจากการขยายท่อขนส่ง Sunrise ใน West Taxas ตั้งแต่เดือน พ.ย.2561
นอกจากนี้ ตลาดยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของผู้เล่นรายใหญ่อย่างจีนและยุโรปที่ค่อนข้างซบเซาจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบที่อาจปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ดี นาย Suhail al-Mazrouei รมว.พลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า ตลาดน้ำมันกำลังปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุล และคาดว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะให้ความร่วมมือปรับลดกำลังการผลิตตามที่ได้ตกลงกันไว้ ณ กรุงเวียนนาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 57-62 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตามอง ได้แก่ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐมีแนวโน้มปรับลดลง หลังโรงกลั่นในสหรัฐยังคงอัตราการกลั่นในระดับสูงเพื่อรองรับความต้องการใช้ในช่วงฤดูหนาว ,ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังตกลงที่จะปรับลดลงกำลังการผลิตลงราว 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ตั้งแต่เดือน ม.ค.2562 เป็นเวลาทั้งสิ้น 6 เดือน
และสถานการณ์ความไม่สงบในลิเบียที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หลังกองกำลังติดอาวุธบุกยึดแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อย่างแหล่ง El Sharara กำลังการผลิตกว่า 315,000 บาร์เรล/วัน