สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ แพร่ น่าน สุโขทัย ลำปาง พิษณุโลก อุตรดิตถ์ พิจิตร แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา ขอนแก่น มุกดาหาร สระแก้ว ชุมพร และระนอง
สถานการณ์น้ำท่วม 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ สกลนคร นครพนม ศรีสะเกษ พระนครศรีอยุธยา
จังหวัดยโสธร ได้รับผลกระทบ 8 อำเภอ
อ.กุดชุม อ.ป่าติ้ว อ.คำเขื่อนแก้ว อ.ทรายมูล อ.เมือง อ.เลิงนกทา อ.มหาชนะชัย และ อ.ค้อวัง รวมพื้นที่ประมาณ 93,519 ไร่
จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับผลกระทบ 11 อำเภอ
อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.กมลาไสย อ.ร่องคำ อ.กุฉินารายณ์ อ.ยางตลาด อ.สหัสขันธ์ อ.คำม่วง อ.ท่าคันโท อ.สมเด็จ อ.ห้วยผึ้ง และ อ.ฆ้องชัย รวมพื้นที่ประมาณ 25,017 ไร่
จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับผลกระทบ 18 อำเภอ
อ.เสลภูมิ อ.โพนทอง อ.เมือง อ.จตุรพักตรพิมาน อ.ธวัชบุรี อ.จังหาร อ.โพธิ์ชัย อ.เชียงขวัญ อ.ทุ่งเขาหลวง อ.เกษตรวิสัย อ.อาจสามารถ อ.เมยวดี อ.พนมไพร อ.หนองฮี อ.โพนทราย อ.เมืองสรวง อ.ปทุมรัตน์ และ อ.สุวรรณภูม รวมพื้นที่ประมาณ 299,030 ไร่
จังหวัดมหาสารคาม ได้รับผลกระทบ 7 อำเภอ
อ.เมือง อ.แกดำ อ.โกสุมพิสัย อ.กันทรวิชัย อ.เชียงยืน อ.บรบือ และ อ.วาปีปทุม รวมพื้นที่ประมาณ 40,016 ไร่
จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับผลกระทบ 6 อำเภอ
อ.ราศีไศล อ.ศิลาลาด อ.รัตนบุรี อ.กันทรารมย์ อ.เมือง และ อ.ยางชุมน้อย รวมพื้นที่ประมาณ 26,015ไร่
จังหวัดอุดรธานี ได้รับผลกระทบ 1 อำเภอ
อ.เมือง
จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับผลกระทบ 16 อำเภอ
อ.ดอนมดแดง อ.ตระการพืชผล อ.เมือง อ.ม่วงสามสิบ อ.เขื่องใน อ.พิบูลมังสาหาร อ.น้ำขุ่น อ.นาเยีย อ.ทุ่งศรีอุดม อ.เดชอุดม อ.วารินชำราบ อ.ตาลสุม อ.เหล่าเสือโก๊ก อ.น้ำยืน อ.สว่างวีระวงศ์ และ อ.สำโรง รวมพื้นที่ประมาณ 100,396ไร่
จังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ
อ.เมือง อ.หัวตะพาน อ.พนา และ อ.ลืออำนาจ รวมพื้นที่ประมาณ 11,427ไร่
จังหวัดสกลนคร ได้รับผลกระทบ 2 อำเภอ
อ.โคกศรีสุพรรณ และ อ.โพนนาแก้ว พื้นที่ประมาณ 987 ไร่
จังหวัดนครพนม ได้รับผลกระทบ 9 อำเภอ
อ.ธาตุพนม อ.เรณูนคร อ.นาแก อ.วังยาง อ.ศรีสงคราม อ.นาหว้า อ.โพน อ.นาทม และ อ.ท่าอุเทน รวมพื้นที่ประมาณ 18,343 ไร่
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบ 1 อำเภอ
อ.เสนา
ที่มาข้อมูล ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอจัฉริยะ กรมชลประทาน