เปิดคลิปวินาทีโจ๋วัย 22 ปีคลั่งกระหน่ำแทงเพื่อนซี้วัย 19 ปีร่างพรุน 7 แผล อาการโคม่า หลังวิ่งหนีตายขอความช่วยเหลือชาวบ้าน ยังตามมากระหน่ำแทงซ้ำ
วานนี้ (28 ม.ค. 2562) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางวรนาท โพธิ์ทอง อายุ 53 ปี อยู่บ้านสามแยก เลขที่ 173/2 หมู่ 3 ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ว่าเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 26 ม.ค.62 ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนเองอยู่ภายในบ้านกับ แม่สามี อายุ 100 ปี และ ลูกสะใภ้อายุ 19 ปี รวม 3 คนนั้น ได้มีชายวิ่งเข้ามาทางประตูหลังบ้านโดยเข้ามาขอความช่วยเหลือ ในสภาพร่างมีเลือดท่วมตัว เนื่องจากถูกแทงด้วยอาวุธมีด ตนจึงตกใจเป็นอย่างมาก จึงได้นำแม่ยายที่ชรามากแล้ว เข้าไปในห้องนอน ก่อนตนและลูกสะใภ้จะหนีออกมา
นางวรนาท เล่าถึงนาทีชีวิตว่าทันใดนั้นได้มีชายฉกรรจ์อีก 1 คน วิ่งตามเข้ามาพร้อมด้วยอาวุธมีด เข้ามากระหน่ำแทงเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่วิ่งเข้ามาจำนวนหลายแผล ระยะเวลาประมาณ 4 นาที ลูกสะใภ้จึงได้ห้ามปรามพร้อมกับใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้ ส่วนคนร้ายได้ข่มขู่ให้หยุดถ่าย และลากคนเจ็บไปหน้าบ้านพร้อมกับแทงซ้ำอีก และได้เข้ามากราบขอโทษตนเองว่าผมขอโทษที่ทำแบบนี้ลงไป ซึ่งทั้งสองคนตนเองไม่เคยรู้จักมาก่อน หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีออกไปทางหลังบ้าน
ต่อมาตนจึงได้แจ้ง ร.ต.อ.วิทวัส ไพบูรณ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปะเหลียน จ.ตรัง ว่ามีคนถูกแทงด้วยอาวุธมีด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในบ้าน ก่อนรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย กำลังตำรวจชุดสืบสวน และหน่วยกู้ชีพ รพ.ปะเหลียน ซึ่งตนเองและคนในครอบครัวตกใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายวิญญู หรือโจ วรรณขาว อายุ 19 ปีได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส นอนแน่นิ่งจมกองเลือดจำนวนมากอยู่บนพื้นบ้าน เจ้าหน้าที่จึงทำการช่วยเหลือชีวิตอย่างเร่งด่วน ก่อนนำตัวส่ง รพ.ศูนย์ตรัง และนำส่ง รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในอาการโคม่า ตรวจสอบร่างกายพบถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมขนาดประมาณ 5 นิ้ว เข้าที่บริเวณ คอ เส้นเลือดใหญ่ขาด หน้าอก ไหปลาร้า สีข้างด้านขวาทะลุปอด รวม 7 แผล
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงชุดสืบสวน สภ.ปะเหลียน ทราบตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายอนิรุต หรือเอ็ก สิงห์อินทร์ อายุ 22 ปี จึงได้นำกำลังเข้าบุกจับภายในบ้านพัก เวลา 02.00 น.วันที่ 27 ม.ค.62 ขณะที่กำลังนั่งดื่มน้ำกระท่อมอยู่ และได้พบมีดปลายแหลม และเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือด ก่อนนำตัวมาเค้นสอบสวนที่โรงพัก ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้ลงมือก่อเหตุจริง ซึ่งตนและผู้บาดเจ็บเป็นเพื่อนสนิทกัน สาเหตุเนื่องจาก ภรรยาของตนเองได้หนีออกจากบ้านไปที่ จ.กระบี่ ตนจึงเกิดความเครียด และคิดว่าเพื่อนเป็นคนที่พาแฟนสาวของตนเองหนีไป หรือมีส่วนรู้เห็น จึงได้วางแผนโทรศัพท์หาเพื่อนว่าขอช่วยขับรถจักรยายนต์ซึ่งเป็นของตนเอง ให้ขับพาตนไปธุระ กระทั่งถึงที่เกิดเหตุบนถนนหลัง รพ.ปะเหลียน ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว ตนจึงได้ใช้อาวุธมีดที่เตรียมไว้กระหน่ำแทงไปที่สีข้างด้านขวาทะลุปอด 1 แผล เพื่อนจึงได้จอดรถบนถนน และวิ่งเข้าไปในสวนยางพาราบริเวณบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว ระยะทางประมาณ 200 เมตร ตนจึงได้วิ่งตามไปแทงซ้ำจนเพื่อนนอนแน่นิ่ง และคิดว่าเสียชีวิตแล้ว จึงขับรถหลบหนีก่อนถูกจับกุมได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตราย แก่กายหรือจิตใจ ก่อนนำตัวฝากขังต่อศาล จ.ตรัง ต่อไป จากการพลิกแฟ้มประวัติทางคดี พบว่าผู้ก่อเหตุเคยต้องในคดี มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และคดีลักทรัพย์ เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา พื้นที่ สภ.ปะเหลียน