“แจ็ค หม่า”เศรษฐีจีน เดินทางมาไทยหารือลงทุนระเบียงเศรษฐกิจ วงเงินกว่าหมื่นล้าน (คลิป)

ช่วงเช้าวันนี้ (19 เม.ย.) นายแจ็ค หม่า ประธานบริหารกลุ่มอาลีบาบา จากประเทศจีน และคณะ เดินทางมาประเทศไทย เพื่อพบกับทีมรัฐบาล เพื่อหารือในการร่วมลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งเมื่อปี 2559 แจ็ค หม่า เคยมาเมืองไทยพบกับนายกฯ ประยุทธ์ แล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการลงทุนในไทยเป็นเรื่องเป็นราว

นายแจ็ค หม่า เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล เวลา 10 โมง เพื่อพบกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ โดยใช้เวลาพูดคุยกันเพียง 10 นาที ก่อนที่จะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เกือบหนึ่งชั่วโมงเพื่อพูดคุยผลักดันการลงทุนต่างๆ ร่วมกับทางการไทย สำหรับกำหนดการเดินทางมาของ ประธานบริหารอาลีบาบาครั้งนี้ นอกจากจะมีกำหนดการประกาศแผนการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี วงเงินลงทุนกว่าหมื่นล้านบาท แล้ว ยังจะได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม 4 ฉบับ เพื่อจัดทำ 5 โครงการ และลงนามกับกระทรวงพาณิชย์อีก 1 โครงการ โดยเน้นการผลักดันโครงการพัฒนาบุคคลาการด้านดิจิทัล,การส่งเสริมธุรกิจผ่านอีคอมเมิร์ซ, โครงการร่วมพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซสำหรับเอสเอ็มอีของไทย, โครงการพัฒนาการตลาดการท่องเที่ยว และความร่วมมือในการนำข้วไทยเข้าไปอยู่ในเว็บไซต์ของเครือข่ายอาลีบาบา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังพบหารือ แจ๊ค หม่า ว่า มีการหารือเป็นไปด้วยดี เพราะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศไทย ในการสร้างคน สร้างระบบ เน้นการดูแลเกษตรกร การนำเข้า และส่งออก รวมถึงการมีบทบาท และเป็นผู้นำในอาเซียนในการค้าขาย และจากการที่ แจ๊ค หม่า มีความเชียวชาญด้านขายออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ์ จะสมารถนำความรู้มาต่อยอด และสร้างประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการไทยได้ ซึ่งการจะร่วมมือกันครั้งนี้ ต้องสร้างระบบของประเทศไทยในระยะยาว ทั้งในเรื่องดิจิทัล ฮับ สมาร์ทซิตี้ และดิจิทัล ฮับ

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่าย ยังเห็นพ้องถึงความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ SMEs ที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับฐานรากจนถึง SMEs ที่สามารถส่งออกได้ โดยผ่านช่องทาง E-Commerce รวมถึงการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ให้ก้าวสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัล

นายแจ๊คหม่า ผู้บริหารกลุ่มบริษัทอาลีบาบา บอกว่า ไทยถือเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยบริษัทมั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากการแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ (MOUs) ระหว่างกลุ่มบริษัทอาลีบาบากับหน่วยงานต่าง ๆ ในการดำเนินโครงการที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย และพร้อมที่จะช่วยสนับสนุนและพัฒนาประเทศไทยไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว