“นิด้าโพล” เปิดผลสำรวจปชช. 44 % จี้ “บิ๊กตู่” หันมาให้ความสำคัญบริหารประเทศ มากกว่า “พลังประชารัฐ” แตกแยก อีก 28 % หากมีปัญหามากก็ลาออก-เลิกเป็นนายกฯ
7 ก.ค.62-ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “รู้สึกอย่างไรกับปัญหาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4 – 5 กรกฎาคม 2562 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,262 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความรู้สึกกับปัญหาพรรคพลังประชารัฐ
เมื่อถามถึงความรู้สึกของประชาชนเกี่ยวกับปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ ในรอบสัปดาห์ ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่
ร้อยละ 26.86 ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐมีความแตกแยกอย่างเห็นได้ชัด
ร้อยละ 20.13 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เข้าใจการเมืองแบบประชาธิปไตยที่ต้องมีการแบ่งปันอำนาจ
ร้อยละ 19.41 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แค่พยายามจะทำให้ได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ดีที่สุด
ร้อยละ 18.54 ระบุว่า ความเห็นต่างเป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
ร้อยละ 16.64 ระบุว่า กลุ่มสามมิตรเล่นการเมืองแบบเดิม ๆ ใช้จำนวน ส.ส. กดดันขอเก้าอี้รัฐมนตรี
ร้อยละ 10.54 ระบุว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ควรทำตามคำพูดว่าจะไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี
ร้อยละ 7.05 ระบุว่า กลุ่มสามมิตรสมควรได้ตำแหน่งรัฐมนตรีตามที่ผู้ใหญ่ในพรรครับปากไว้
ร้อยละ 2.06 ระบุว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เหมาะสมกับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน
ร้อยละ 1.19 ระบุว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เหมาะสมกับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม
ร้อยละ 0.87 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้เวลานานเกินไปในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายการเมือง และร้อยละ 27.42 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
เมื่อถามถึงความเห็นของประชาชนต่อการดำเนินการทางการเมืองในอนาคตของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่
ร้อยละ 44.69 ระบุว่า ควรให้ความสำคัญกับการบริหารประเทศมากกว่าปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ
ร้อยละ 28.53 ระบุว่า หากมีปัญหามากนัก ก็ลาออก เลิกเป็นนายกรัฐมนตรี
ร้อยละ 24.17 ระบุว่า หากมีปัญหามากนัก ก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่
ร้อยละ 22.50 ระบุว่า ควรแบ่งปันอำนาจให้เหมาะสมเพื่อความอยู่รอดของรัฐบาล
ร้อยละ 12.84 ระบุว่า ควรใช้อำนาจอย่างเด็ดขาด แม้ว่ารัฐบาลอาจจะอายุสั้นก็ตาม
ร้อยละ 6.02 ระบุว่า ควรหาตำแหน่งทางการเมืองอื่น ๆ ให้กับ ส.ส. ที่ผิดหวังไม่ได้เป็นรัฐมนตรี
ร้อยละ 5.55 ระบุว่า ไม่ควรเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเพื่อจะได้ลอยตัวจากปัญหา
ร้อยละ 5.23 ระบุว่า ควรเข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อแก้ไขปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ
ร้อยละ 2.54 ระบุว่า ควรเตรียม งูเห่า จากพรรคฝ่ายค้านในกรณีวิกฤติ เพื่อให้มาสนับสนุนนายกรัฐมนตรี
ร้อยละ 9.75 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ