ทีมนักสำรวจใต้ทะเลของ Atlantic Productions ซึ่งเป็นผู้ผลิตสารคดีสัญชาติอังกฤษ ได้เปิดเผยภาพล่าสุดของเรือง RMS Titanic ที่จมอยู่ใต้ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกมานานกว่า 107 ปี โดยพบว่าหลายส่วนของเรือนั้นได้ถูกไมโครแบคทีเรียย่อยสลายจนไม่เหลือซากแล้ว
ภาพชุดนี้ที่เปิดเผยนับเป็นการลงไปถ่ายให้เห็นสภาพของเรือไททานิกเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 15 ปี จากครั้งล่าสุดที่มีการส่งยานสำรวจลงไปเก็บภาพของเรือในปี ค.ศ. 2005
วิคเตอร์ เวสโคโว หนึ่งในทีมนักสำรวจเผยว่า ความแตกต่างของซากเรือที่จมอยู่ใต้ก้นมหาสมุทรลึก 3,800 เมตรคือ เศษซากบางส่วนของเรือเช่น ภายในห้องพักของกัปตันซึ่งเคยพบอ่างอาบน้ำเมื่อ 15 ปีก่อนนั้น ปัจจุบันได้หายไปแล้ว
ขณะที่ส่วนอื่นๆเช่น ดาดฟ้าเรือในด้านเดียวกันยังก็เริ่มผุพังถล่มลงมา พร้อมกับห้องนอนผู้โดยสารอีกหลายห้อง และคาดว่าอีกไม่นานหลังคาของเลานจ์บริเวณหัวเรืออาจเป็นส่วนต่อไปที่ถูกจุรินทรีย์ย่อยสลาย ส่วนบริเวณที่หายไปมากที่สุดคือพื้นที่กราบขวาที่เป็นที่พักของลูกเรือ
โดยที่บริเวณส่วนหัวเรือ แสดงให้เห็นสภาพการถูกกัดกร่อนด้วยสนิมและแบคทีเรียกินโลหะอย่างช้าๆ “เศษซากของเรือกำลังจะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาของมัน ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการธรรมชาติ”
ลอร์รี่ จอห์นสัน กล่าว ในการลงไปถ่ายภาพของทีมนักสำรวจครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตสารคดีของ Atlantic Productions โดยมีการใช้ยานสำรวจใต้น้ำที่เรียกว่า DSV Limiting Factor ของบริษัทTriton Submarines ในการดำลงไปในความลึกใต้ทะเลเกือบ 4 กิโลเมตร โดยอุปสรรคใหญ่ของการสำรวจในครั้งนี้คือสภาพอากาศที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไรนัก
สำหรับเรือไทนานิคนั้น ได้ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งขณะกำลังแล่นไปยังนครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกาเมื่อคืนวันที่ 14 เมษายนปี ค.ศ.1912 ก่อนจะจมลงสู่ก้นมหาสมุทรในเวลาราว 02.00 น. ของวันที่ 15 เมษายน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1,514 ราย
ขอบคุณภาพ : Atlantic Productions / Wikicommon
อ่านข่าว Bright Today