ปิดคดีฆ่าแหม่มชาวสวิส – วันนี้ (8ส.ค.2564) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวรายละเอียดการจับกุม ผู้ต้องหาคดีฆ่านางสาวนิโคล อายุ 57 ปี นักท่องเที่ยวชาวสวิสเซอร์แลนด์ ภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เสียชีวิตที่บริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม และพบศพเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ต่อมาวันที่ 7 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ คือนายธีรวัฒน์ หรือ บังหลี ท่อทิพย์ อายุ 27 ปี ชาวภูเก็ต อดีตนักมวย ชาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.วิชิต หลังเจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยขับไปจอดซื้อกาแฟที่ร้านกาแฟแห่งนั้น จึงขับรถตามไป หลังจากนั้นควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.วิชิต จนสารภาพ เพราะจำนนด้วยพยานหลักฐาน

นายธีรวัฒน์ฯ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากการสอบสวนเพิ่มเติม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ไปรื้อค้นกระเป๋าเพื่อเอาทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเงินสดของผู้เสียชีวิตจำนวน 300 บาท จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมว่า ” ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ” ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

โดยในการแถลงข่าว ผู้ต้องหาได้โฟนอินเพื่อขอโทษคนไทยและให้การกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในวันที่เกิดเหตุ ว่า หลังจากที่ตนได้ขึ้นไปหาของป่าและเดินกลับลงมาจากบริเวณชั้นบนของน้ำตกโตนอ่าวยน ก็พบกับผู้ตายนั่งเปลือยกายท่อนล่าง อยู่บริเวณโขดหินริมธารน้ำตก และได้แอบดูอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจเดินเข้าไปหาผู้ตาย แล้วได้ใช้มือทั้งสองข้างล็อคคอผู้ตายจากทางด้านหลัง ผู้ตายได้ดิ้นรนต่อสู้ จนตกลงไปในแอ่งน้ำด้วยกัน และตนได้ใช้มือรัดคอซ้ำ จนผู้ตายแน่นิ่งไป จากนั้นได้จับผู้ตายคว่ำหน้า และใช้พลาสติกสีเข้ม ที่อยู่ในบริเวณนั้น มาคลุมปิดศพไว้ และใช้ก้อนหินทับไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อไมให้ผู้ใดพบเห็น แล้วนำกระเป๋าเป้ของผู้ตายไปช่อนไว้ที่บริเวณหลังต้นไม้ ส่วนรองเท้าของผู้เสียชีวิตได้โยนทิ้งห่างจากศพผู้ตายออกไป จากนั้นได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ นายธีรวัฒน์ สำนึกผิดในการกระทำแล้ว ยืนยันว่า ต้องการประสงค์ชิงทรัพย์เพียงอย่างเดียว เพราะเพิ่งตกงาน ช่วงโควิดรายได้น้อย ในวันที่เกิดเหตุก็ให้เงินแฟนไปหมดแล้วไม่กล้าขอแฟนเพิ่ม และได้รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ อยากขอโทษคนไทยทั้งประเทศและผู้เสียชีวิตกับสิ่งที่กระทำไป ตนขอโทษจากใจจริง ตนไม่ได้เจตนาจะฆ่านักท่องเที่ยว อยากกราบขอโทษครอบครัวผู้ตายกับเหตุที่กระทำ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวว่า ในนามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แสดงความเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ แม้ จนท.สามารถจะสืบสวนและจับกุมคนร้ายได้ แต่ก็ไม่อาจจะทดแทนกับความสูญเสียของครอบครัวผู้เสียชีวิตไปได้ และจะขอมุ่งมั่นดูแลความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจ และหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวกลับมาที่ประเทศไทยอีกในอนาคต

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาชิงทรัพย์ และทำให้ถึงแก่ความตาย ส่วนจะมีข้อหากระทำชำเราด้วยหรือไม่ ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และผลการชันสูตรพลิกศพให้แน่ชัดก่อน สำหรับการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การในระดับหนึ่ง แต่ตำรวจยังมีข้อสงสัยบางเรื่องที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งจะต้องรอพยานหลักฐานให้ชัดเจน เพื่อให้ทราบถึงมูลเหตุจูงใจที่แท้จริงอีกครั้ง

นอกจากนี้ยังพบว่า นายธีรวัฒน์ฯ ผู้ต้องหา เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ภ.จว.ภูเก็ต จับกุมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2563 ในความผิด ครอบครองยาเสพติดให้โทษ (แมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย ตามคดีอาญาที่ 1278/2563 ลง 5 ตุลาคม 2563 ศาลพิพากษาลงโทษจําคุก 9 เดือน ปรับ 15,000 บาท โทษจำคุก รอลงอาญา 2 ปี อยู่ระหว่างคุมความประพฤติ 1 ปี
ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้ว่า ททท. ทาง ททท.และกระทรวงท่องเที่ยวเราเสียใจกับเหตุการณ์นี้เพราะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่ตำรวจก็สามารถจับกุมคนร้ายได้รวดเร็ว หลังจากนี้ ก็จะมีการประเมินผลกระทบต่อ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แต่ล่าสุดก็ดูแล้ว ยังไม่กระทบมากนัก ยังมียอดจองห้องพักเข้ามาตามปกติ
ก่อนจบการแถลงข่าว 16 องค์กร ภาคเอกชนภูเก็ต มอบเงินรางวัลนำจับ จำนวน 200,000 บาท ให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกด้วย สนับสนุนทางราชการเพื่อให้สามารถคลี่คลายคดีโดยเร็ว ให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมต่อไป

ด้าน นายยันเคธเนอร์ (Mr.Jan Kaethner) ผู้ช่วยฝ่ายตำรวจสวิสเซอร์วิส ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเพื่อนข้าราชการตำรวจไทยที่เกี่ยวข้องกับการคลี่คลายคดี ในความพยายามอันใหญ่หลวงที่ได้ทุ่มเท ทำงานสืบสวน หาพยานหลักฐานและจับกุมผู้กระทำผิด จนสามารถคลี่คลายคดี อันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้อย่างรวดเร็ว ครอบครัวของผู้วายชนม์ และพลเมืองแห่งประเทศไทย สมควรที่จะได้รับการทำงาน สวนสอบสวนที่เป็นมืออาชีพ เช่นนี้ ผมเชื่อมั่นว่า การทุ่มเทตรากตรำทำงานหนักของทีมงานสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะนำพาให้การสืบสวนสอบสวนคดีนี้ บรรลุผลสำเร็จอย่างงดงาม ผมขอถือโอกาสนี้ แสดงความขอบคุณ รัฐบาลไทย และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง สำหรับความทุ่มเท มุ่งมั่น ที่จะทำให้จังหวัดภูเก็ต กลับมาเป็นพื้นที่ปลอดภัย อีกครั้งหนึ่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก โปลิศไทยแลนด์ – Police Thailand News / Phuketandamannews