ประสบการณ์โควิดลงปอด – โควิด -19 อยู่รอบตัวเราทุกคนในสังคมยังมีหลายคนที่ยังประมาทการใช้ชีวิตไม่ป้องกันตัวเอง ยังมีหลายคนที่คิดว่าคงไม่เกิดขึ้นกับเราหรอก หลายคนยังคิดว่าไม่ได้ออกไปเจอคนนอกบ้านไม่ติดหรอก ซึ่งความประมาทเล็กๆน้อยๆทั้งหมดนี้อาจนำไปสู่การติดเชื้อได้ บางรายไม่โชคดีติดไม่กี่วันก็เสียชีวิต บางรายสุขภาพแข็งแรงหรือจะเรียกว่าโชคดีก็ได้ หากรอดมาได้ อย่างกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ค Theeravat Santivat ที่ได้แชร์ประสบการณ์เฉียดตายของการติดโควิดแล้วเชื้อลงปอด แม้จะรอดมาได้แต่ร่างกายไม่มีทางเหมือนเดิมโดยได้ลงภาพและข้อความระบุว่า
ในที่สุดก็พร้อม ขอเล่าให้ฟังว่า “เมื่อโควิดลงปอดเกือบตาย” และ “ร่างกายที่ไม่เหมือนเดิมหลังจากรักษาหายแล้ว”
เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา ที่รู้สึกอยากตาย โรคนี้พอลงปอดมันทรมานมาก
1. เริ่มแรก ติดโควิดจากที่บ้าน มีอาการไข้ขึ้น 38-39 องศา ไอเหมือนคนบ้า กลางคืนหนาวสั่น นอนไม่ได้ แต่ถ้าพาราออกฤทธิ์ ไข้ก็จะลด แต่ยังไออยู่
2. ความน่ากลัวของโควิดเริ่มขึ้น เรานอนซมอยู่ 3 วัน ได้ไปรักษาที่ Hospitel วันแรกเราเดินไปเอ็กซ์เรย์ปอดได้แบบสบายๆ แล้วก็ขึ้นไปห้องพัก ถ่ายรูปไปให้เพื่อนดู อาการยังไม่หนัก และคิดว่าคงไม่หนัก แต่มันไม่ใช่แบบนั้น
3. วันที่ 2 ใน Hospitel จู่ๆเราก็เดินไปเอ็กซ์เรย์ปอดไม่ไหว ขึ้นลิฟท์ไม่ไหว มีอาการหอบ หายใจไม่ออก เหมือนจะจมน้ำ ทั้งๆที่เมื่อวานยังดีๆอยู่เลย หมอรีบวิ่งมาที่ห้อง ย้ายเราไปห้องที่มีท่อต่อ ออกซิเจน และนับจากวันนั้น “ถ้าถอดออกซิเจนออก คือเราตายทันที” เพราะหายใจไม่ได้ นอนพะงาบๆ
มีวูบหนึ่งที่คิดว่า แค่หายใจมันยากขนาดนี้เลยเหรอ ตายไปจะสบายกว่าไหมนะ…อ๋อ หน้าต่างเปิดไม่ได้โดดไม่ได้เหรอ เข้าใจแล้วว่าทำไมหน้าต่างของโรงพยาบาลถึงล็อกเสมอ เพื่อป้องกันคนคิดอย่างเราสินะ (ชั่วโมงนั้นมันทรมานมาก มันไม่ไหวจริงๆ )

4.ยังไม่จบ โควิดยังทำลายปอดเราต่อไป ออกซิเจนเอาไม่อยู่ ทาง Hospitel รีบส่งเราไปโรงพยาบาลสนามราชพิพัฒน์ เครือธนบุรีบำรุงเมือง วันแรกที่มาถึง หมอรีบต่อสายออกซิเจน แล้วเร่งไปที่เบอร์ 5 ทันที เราถึงยังรอดอยู่
5. หมอรีบจับฉีดยาแก้ปอดอักเสบ ยากระตุ้นปอด แล้วบอกเราว่าขยับตัวให้น้อยที่สุด เรามองไปรอบข้าง มีคนเหมือนเราเต็มเลย .เราตกใจกับภาพที่เห็นมาก เราอาการหนัก คนข้างๆหนักกว่า บางคนนั่งคุยกันอยู่ดีๆ ไม่กี่ชั่วโมงกลายเป็นผู้ป่วยวิกฤติ โรคนี้มันพร้อมฆ่าเราทุกเวลาจริงๆ

6. ทีมหมอ ทีมพยาบาลทั้งที่ฮอสพิเทล และที่นี่ ทำงานหนักมาก ดูแลคนไข้ดีมาก พยาบาลจับมือเราที่ยังติดโควิด แต่นอนพะงาบๆหายใจไม่ได้ เขามองหน้าเราแล้วบอกว่า ไม่ต้องห่วงนะคะ พยาบาลอยู่ข้างๆแล้วนะคะ เราร้องไห้เลย เราซึ้งใจเขามาก ทีมหมอ ทีมแพทย์ หน้าด่านทุกคน ควรได้วัคซีนที่ดีที่สุด โดยไม่มีข้อแม้
7. ผ่านไป 3 วัน อาการเราเริ่มดีขึ้น เริ่มเอาสายออกซิเจนออกได้นานขึ้น จากนั้นก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ จนหมอเอ็กซ์เรย์ปอดเห็นว่าปลอดภัยแล้ว จึงให้กลับบ้านได้ ใช่กลับบ้านได้ แต่ร่างกายเรายังไม่กลับมา
8 ทุกวันนี้ ร่างกายเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อยู่ดีๆเรี่ยวแรงหายไปดื้อๆ มีอาการหน้ามืดบ่อยมากเมื่อออกแรงเยอะ ยืนเวฟข้าวอยู่ดีๆจะเป็นลม ร่างกายต้องการน้ำตาลอย่างมาก แปลกมาก พอได้กินโค้ก น้ำหวาน ไอติม แรงจะเริ่มมี ในหนึ่งวันต้องกินของหวานเยอะมาก หวังว่ามันจะเป็นแค่ระยะพักฟื้นสั้นๆ
9. สุดท้ายนี้ อยากบอกทุกคนว่า อย่าประมาท รักษาสุขภาพไว้ ให้คิดว่าคนรอบตัวอาจติดโควิดได้ แม้แต่คนในครอบครัว อย่าล้อมวงกินข้าว เดี๋ยวจะติดกันทั้งบ้าน อยู่ห่างๆกันไว้ แม้ไม่ใกล้กัน แต่ก็ยังได้มีชีวิตอยู่ด้วยกัน จะได้ไม่ติดโควิดทั้งบ้านเหมือนเรา
เมื่อฉันโควิดลงปอด เดือน ก.ค. 2021
ธีระวัฒน์ สันติวัฒน์

ขอบคุณข้อมูลจาก Theeravat Santivat