ทำแผนมือฆ่าสาวดับมาดรูด แม่เหยื่อ ติดใจการตาย

คดีสาวอายุ15 ตายในโรงแรมคืบ พบ 2ผู้ต้องหาฉี่ม่วง  แม่เหยื่อเตรียมตั้งศพที่บ้าน สงสัยทำไมลูกตายทั้งที่เพิ่งคุยกันตอน 21.55 น. รอผลจากนิติเวช ตำรวจนำตัวทำแผนในห้องพักโรงแรมที่เกิดเหตุ

ความคืบหน้าคดีพบศพ น.ส.เอ อายุ 15 นอนเสียชีวิตอยู่ใน โรงแรมกลางเมืองกาญจนบุรี ต่อมา ตำรวจได้จับกุม นายดนัย มาลัยอุทิศธรรม อายุ 34ปี และ นายพิบูลย์ศักดิ์ หนู่ทองสุข อายุ 37 ปี ในข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์ซึ่งมีอายุกว่า15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และอีกข้อหาคือ พาหญิงที่มีอายุ 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี โดยหญิงนั้นเต็มใจหรือไม่ก็ตามพาไปเพื่อการอนาจาร  นำตัวมาสอบสวน

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ต. คำรณ บุญเลิศ ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าการสอบสวนว่า หลังจากแจ้งข้อกล่าวหา ต่อนายดนัย และนายพิบูลย์ศักดิ์ ว่า ร่วมกันภาคผู้เยาว์และพาไปเพื่อการอนาจารแล้ว พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนทั้งสองคน ในประเด็นเกี่ยวกับยาเสพติดและอุปกรณ์เสพยาบ้าที่พบในห้องที่เกิดเหตุ จึงนำตัวทั้งสองคนไปตรวจหาสารเสพติด พบว่า มีสารเสพติดในร่างกาย จึงแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 2 ข้อหา คือมีสารเสพติดในร่างกายและร่วมกัน ครอบครองยาบ้าของกลางที่พบในที่เกิดเหตุ ส่วนการตรวจพิสูจน์สาเหตุการที่น้องผู้หญิงที่เสียชีวิต ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ที่นำศพส่งสถาบันนิติเวชให้ตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ต่อไป ได้กำชับทางพนักงานสอบสวนให้สอบสวนในทุกประเด็น ทั้งเรื่องยาเสพติด ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้ต้องหากับผู้ตาย ซึ่งเราต้องให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

 ส่วนทางด้านนางบี (นางดารา เนื่องสกุล) อายุ  37 ปี มารดาของนางสาวเอ พร้อมญาติได้จัดสถานที่ตั้งศพนางสาวเอ ที่บ้านพัก เลขที่ 51/3 หมู่1 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี โดย นางบีเปิดเผยความรู้สึกว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็มีจ้อสงสัยหลายประการ ประการแรกทำไมลูกต้องตายในโรงแรม ทั้งที่มีคนพูดกับทางญาติว่า ลูกสาวไปพักกับ 1 ใน 2 ผู้ต้องหา เป็นเดือนแล้ว แต่เกิดเหตุร้านกลับเป็นที่โรงแรม เชื่อว่าน่าจะเป็นการตายที่ไม่ปกติ แต่ต้องรอผลการผ่าพิสูจน์จากรพ.ตำรวจก่อน วันนี้ได้เดินทางไปที่รพ.ศูนย์ราชบุรี แต่ทางรพ.ศูนย์ไม่รับผ่าโดยบอกว่าได้แจ้งประสานกับทางพนักงานสอบสวนไปแล้ว จึงต้องไปที่รพ.ตำรวจ แต่เอกสารจากทางพนักงานสอบสวนไม่เรียบร้อยจึงต้องรอ แบะน่าจะมีการผ่าศพได้ในวันพรุ่งนี้  ตนยอมรับในผลการตรวจพิสูจน์หากพบว่ามีเป็นการกระทำให้เสียชีวิต ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

 นางบี กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าตนเลี้ยงลูกลูกมาแบบเหมือนเป็นเพื่อน มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ทุกวันขนาดคืนก่อนที่พบศพ คือวันที่ 23 ส.ค. เวลา21.55 น. ตนยังได้พูดคุยโทรศัพท์กับลูกอยู่เลย ยังถามเจาว่าอยู่ไหน เขาก็บอกว่าอยู่กับรุ่นพี่ที่มีเมีย ไม่มีอะไร เขายังบอกว่าเขาเจ็บไหล่ที่เขาเกิดอุบัติเหตุรถชน เขาขอเวินไปซื้อยาทาน เราก็ยังโอนให้ 300 บาท  ดังนั้นการให้ปากคำของผู้ต้องหาเดี่ยวกับเวลาที่บอกกับตำรวจตามที่เป็นข่าว ทำให้เราสงสัย เพราะเท่าที่ทราบว่ามีผู้ต้องหาบางคนให้การว่ามีการร่วมหลับนอนด้วย จึงทำให้สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว คงต้องรอผลการสอบสวน

ต่อมาเวลา 17.00 น.  พ.ต.อ.ทศพร ปทุมยา ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อม พ.ต.ต.ชัยวัชริศ สิงห์สังข์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าของคดี ได้นำตัวนายดนัย มาลัยอุทิศธรรม และ นายพิบูลย์ศักดิ์ หนู่ทองสุข อายุ 37 ปี ไปเก็บหลักฐานดีเอ็นเอกับตำรวจวิทยาการ ตาอจากนั้นนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณที่เกิดเหตุ ห้องพักเลขที่ 9 รร.อันเดอร์กราวด์ ซอยไปรษณีย์ ต.บ้านใต้ ที่เกิดเหตุที่พบศพ น.ส.เอ โดยใช้เวลา แต่ 20นาที จึงนำตัวกลับไปที่สภ.เมืองกาญจนบุรี