ตำรวจร่วมกับสำนักงาน ปปง. และตำรวจสายสืบจากอินโดนีเซีย แถลงข่าว การกวาดล้างขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้ทุกรูปแบบหลอกลวงเหยื่อผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชี พบการเชื่อมโยงทั้งต่างประเทศและในประเทศ ออกหมายจับแล้วกว่า 100 ราย ไปติดตามการรายงานจาก คุณณัฐพงษ์ เรียบสันเทียะ ผู้สื่อข่าวไบรท์ทีวี
ตำรวจท่องเที่ยวและ ปปง. จับกุมผู้บงการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นชาวต่างชาติได้ 4 รายจากทั้งหมด 7 ราย โดยมีผู้ที่ร่วมขบวนการอีกกว่า 113 คนที่ถูกออกหมายจับและถูกจับกุมไปแล้วบางส่วน มูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ประมาณ 120 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือ /คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค /สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 77 บัญชี /ซิมโทรศัพท์ พร้อมด้วยบัตรเครดิต รวมกว่า 100 รายการ มูลค่าความเสียหาย 120 ล้านบาท เป็นของกลางที่ตำรวจสามารถยึดได้จาก นายทอมมี่ วู สัญชาติอินโดนีเซีย หัวหน้าแก๊ง / นายจิรวัฒน์ กล่อมบาง และ นายจินพัฒน์ คณารัตินานนท์ ผู้ต้องหาเครือข่ายขบวนการคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชี
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยืนยันว่า นายทอมมี่ ที่เป็นคนอินโดนีเซีย มีพฤติกรรม ได้ชักชวนคนไทยจำนวน 8 คน ให้ร่วมขบวนการเพื่อก่อเหตุในลักษณะโทรศัพท์ไปหลอกลวงผู้เสียหาย โดยใช้ประเทศฟิลิปปินส์ และ ประเทศใกล้เคียง เป็นฐานในการกระทำความผิด และโทรศัพท์กลับมาหลอกผู้เสียหายในประเทศไทย แอบอ้างตัวเป็นพนักงานไปรษณีย์ หรือ เจ้าหน้าหน่วยงานราชการ และตำรวจ
พฤติการณ์ของขบวนการนี้ คือ การหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ที่กลุ่มนี้เปิดไว้ ในรูปแบบต่างๆ เช่น ข่มขู่ แอบอ้าง และหลอกถูกรางวัล จากนั้นก็จะมีผู้กดเงินสดออกจากบัญชีที่โอนมาเพื่อ นำเงินไปซื้อเงินสกุลดิจิตอล หรือ บิทคอยส์ เพื่อโอนต่อไปให้นายทอมมี่ยังต่างประเทศ ทั้งนี้ในคดีดังกล่าว ตำรวจจับผู้ร่วมกระทำผิดไปแล้ว 3 คน และอยู่ระหว่างติดตามตัวอีก 4 คน ที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาคนทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดย แสดงตนเป็นบุคคลอื่นฯ พร้อมประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่อตรวจสอบและอายัดธุรกรรมทางการเงินต่อไป สำหรับประชาชนที่มีเคยถูกว่าจ้างให้เปิดบัญชีโดยจะทราบหรือไม่ทราบก็ตาม ขอให้หยุดการกระทำ เพราะหากถูกตรวจสอบพบจะถูกดำเนินคดีฐานร่วมขบวนการฉ้อโกงประชาชน