แม่และน้าสาวของเด็กหญิงวัย 12 ปีที่โดนผู้บริหารระดับสูงของหน่วยราชการแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ล่วงละเมิดทางเพศ เข้าพบ รอง ผบช.ภ.5 เพื่อมาร้องเรียนและขอความคุ้มครองเนื่องจากถูกคู่กรณีพูดจาข่มขู่
หลังจากเมื่อวานนี้ (27 ก.พ.) น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 44 ปี พาลูกสาว 2 คน คือ ด.ญ.เก๋ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ และ ด.ญ.ข้าว (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ ว่าลูกสาวทั้งสองคนถูกผู้บริหารระดับสูง ระดับผู้อำนวยการของส่วนราชการแห่งหนึ่งใน จ. เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสามีของพี่สาวตนเองและมีศักดิ์เป็นลุงเขยของเด็กหญิงทั้งสองข่มขืนและทำอนาจาร
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (28 ก.พ.) แม่และน้าสาวของเด็กหญิงวัย 12 ปี เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อเข้าร้องเรียนและขอความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ โดยมี พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รอง ผบช.ภ.5 ที่ดูแลด้านคดีเด็กและสตรี รับเรื่องจากผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 12 ปีซึ่งตกเป็นผู้เสียหายในคดีล่วงละเมิดทางเพศ
ส่วนสาเหตุที่ญาติต้องนำเด็กหญิงมาร้องเรียนและขอความคุ้มครอง เนื่องจากหลังแจ้งความดำเนินคดีกับข้าราชการรายนี้ ปรากฏว่าถูกข่มขู่จากคู่กรณี โดยน้าสาวของเด็กหญิงวัย 12 ปี เล่าว่า พี่สาวที่เป็นภรรยาของข้าราชการรายนี้ได้เข้ามาพบที่บ้านพัก พร้อมกับพูดจาให้ถอนแจ้งความมิฉะนั้นจะฟ้องกลับที่ทำให้สามีเสียหายทั้งต่อหน้าที่การงานและหน่วยงานต้นสังกัด เพราะสามีไม่ได้ทำอะไรผิด ทำให้แม่และเด็กหญิง 12 ปีเกิดความหวาดกลัวและวิตกกังวล จึงอยากให้มีการส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลความปลอดภัย ขณะที่ในส่วนของเด็กหญิงยังไปโรงเรียนตามปกติ แต่ได้กำชับให้ครูช่วยดูแลและในเวลาเลิกเรียนต้องให้แม่และน้ามารับเท่านั้น ไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นมารับตัวเด็กไปเด็ดขาด
พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รอง ผบช.ภ.5 ระบุว่า ยืนยันว่าจะเร่งรัดกระบวนการสอบสวนในคดีให้เสร็จโดยเร็ว ส่วนการคุ้มครองพยานก็พร้อมจะดำเนินการให้ตามที่ร้องขอ สำหรับความคืบหน้าคดีพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้แล้ว และส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย แต่การสอบสวนจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย คือ มีทีมสหวิชาชีพทั้งนักสังคมสงเคราะห์ และอัยการเด็กเข้าร่วม จึงต้องใช้เวลาในการนัดหมาย แต่เบื้องต้นได้มีการซักถามข้อเท็จจริงไปแล้วบางส่วน และจะเร่งสอบพยานผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งแพทย์ที่ตรวจร่างกาย
รอง ผบช.ภ.5 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า คดีนี้ไม่หนักใจแม้ผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการแต่ก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่ สำหรับตัวผู้ถูกกล่าวหา ทราบว่ามีถิ่นที่อยู่แน่นอน เบื้องต้นจะออกหมายเรียกมาให้ปากคำภายใน 1 – 2 วันนี้ หากไม่มาตามหมายเรียกก็จะออกหมายจับต่อไป