เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร 50 นาย เข้าค้นบ้านน้องชายกำนันชื่อดังใน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยเป็นมือปืนใช้อาวุธสงครามชนิดปืนอาก้ายิง นายสมปอง นวลเต็ม อายุ 41 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจนเสียชีวิตริมถนนสายเอเชียใน อ.ตะโหมด จ.พัทลุง และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 คน ด้านผู้บัญชาการภาค 9 ย้ำติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วเพราะใช้อาวุธปืนสงครามก่อเหตุ
พ.ต.อ.อนุรุธ อิ่มอาบ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.พัทลุง นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ป่าบอน, ตำรวจตระเวนชายแดน และทหารจากค่ายอภัยบริรักษ์ กว่า 50 นาย เข้าค้นบ้านของ นายทนงศักดิ์ เพชรตีบ อายุ 45 ปี น้องชายของ นายธีรพงษ์ เพชรตีบ หรือ “กำนันตุ้ม” ผู้กว้างขวางในพื้นที่ จ.พัทลุง ในบ้านพักพื้นที่ ม.1 ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง
จากการตรวจค้นพบชายวัยกลางคนนั่งทำความสะอาดอาวุธปืนบริเวณหลังบ้าน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงวิ่งหนีเข้าสวนยางพาราข้างบ้านหายไป นอกจากนี้ ยังมีกล้องอาวุธปืน แม็กกาซีนอาวุธปืน 9 มม. และกระสุนเต็มตกอยู่ที่ลานบ้าน พร้อมทั้งอุปกรณ์ล้างอาวุธปืน อุปกรณ์ส่วนควบของอาวุธปืนหลายชนิด บริเวณรอบบ้านติดกล้องวงจรปิดรอบบ้าน เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวลายดำพร้อมกางเกงยีนส์ที่คาดว่าผู้ต้องสงสัย ใช้สวมใส่ขณะก่อเหตุอยู่ในเครื่องซักผ้า ซึ่งตรงกับชุดที่พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ให้การในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บของกลางพร้อม เก็บรายละเอียดทางนิติวิทยาศาสตร์ไว้เป็นหลักฐาน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรตะโหมดไปตรวจสอบเหตุคนร้ายขับรถฮอนด้า ซีอาร์วี มาขวางหน้ารถก่อนยิงใส่รถเก๋งของ นายสมปอง นวลเต็ม อายุ 41 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จนเสียชีวิต ที่ริมถนนสายเอเชีย ขาล่อง ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 คน ซึ่งพบกองเลือดภายในรถเก๋งและกระจกด้านคนขับ มีรอยกระสุนปืน 4 นัด ที่ประตูด้านรถขับ 1 นัด และปลอกกระสุนปืนอาก้า 5 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ นายสมปอง ขับรถเก๋งพาเพื่อนชายอีก 2 คน กลับจากร้านอาหาร มีคนร้ายขับรถปาดหน้าก่อนลงมาใช้ปืนอาก้ายิงใส่ นายสมปองรวม 5 นัด โดยกระสุนเฉี่ยวไปถูกเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ 1 คน และพนักงานร้านอาหารที่เดินมาส่งอีก 1 คนได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะมาจากเรื่องขัดแย้งส่วนตัว
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบก.ภ.9) ซึ่งเดินทางมาติดตามคดีด้วยตัวเองที่ สภ.ตะโหมด กล่าวว่า ในส่วนของผู้ต้องสงสัยอยู่ในกลุ่มผู้มีอิทธิพลนั้น ได้เน้นย้ำในส่วนที่ไปเจอของกลางที่บ้าน ถ้าอันไหนต้องดำเนินคดีก็ต้องแยกต่างหาก ส่วนที่เกี่ยวกับคดีนี้ก็ให้รีบดำเนินการ และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดเหตุทั้งหมดทั้งพยานบุคคล และพยานทางนิติวิทยาศาสตร์