ตำรวจ สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี จับกุม 2 ขี้ยาเดนนรกทุบศีรษะพระธุดงค์จนมรณภาพชิงทรัพย์นำเงินซื้อยาบ้า ตีเนียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จนท. เค้นกดดันเรียกตัวสอบสวน 3 วันติดจำนนด้วยหลักฐาน สารภาพเชิดเงินสด 6,000 บาทซื้อยาบ้า
สืบเนื่องจากคนเลี้ยงวัวในชุมชนเกตุแก้ว ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พบศพ พระเกตุ ธัมมกาโม หรือ นายเกตุ ชัยพา พระธุดงค์วัดคีรีเขต ต.ยายแย้มพัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ถูกฆ่าชิงทรัพย์ ขณะปักกลดในป่ายูคาลิปตัสข้างชุมชนเกตุแก้ว ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 มี.ค.60 เวลา 23.50 น.) ชุดสืบสวนได้นำหมายจับของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 78/2560 และ 79/2560 ลงวันที่ 15 มี.ค.60 เข้าจับกุม นายพุทธกาล ศรีหิน หรือ “ใหม่” อายุ 27 ปี ชาวบ้าน บ.ศรีอุดม ม.10 ต.โคกชำแระ อ.ทุ่งศรีอุดม จ.อุบลราชธานี และ นายภาณุวัฒน์ คำมิ่ง หรือ “บ็อบบี้” อายุ 29 ปี ชาวชุมชนเกตุแก้ว ถ.แก้วเสนา ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ในข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขณะที่เชิญตัวมาสอบสวนในฐานะผู้ต้องสงสัยฆ่า พระเกตุ ธัมมกาโม หรือ นายเกตุ ชัยพา อายุ 72 ปี
เบื้องต้น นายพุทธกาล ให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุตนเองและ นายภาณุวัฒน์ เดินทางมาเที่ยวงานบุญวัดเสนาวงค์ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนเกตุแก้วประมาณ 1 กิโลเมตร ขณะเดินทางผ่านจุดเกิดเหตุพบ พระเกตุ กำลังพูดคุยกับชาวบ้าน นายภาณุวัฒน์ จึงได้ชักชวนตนเข้าไปดูเพื่อพูดคุยกับ พระเกตุ ประมาณ 15 นาที ก็ขับรถออกไปเที่ยวงานวัดต่อ
จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. นายภาณุวัฒน์ ได้ชักชวนตนออกมาหา พระเกตุโดยที่ พระเกตุ จำวัดไปแล้ว นายภาณุวัฒน์ เข้าไปปลุก พระเกตุ ขึ้นมาแล้วก็ใช้ไม้ตีประมาณ 5-6 ครั้ง ก่อนจะเอาเงินในย่ามของพระออกมา 6,000 บาท โดยแบ่งให้ตน 1,500 บาท จากนั้นก็พากันแยกย้ายทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอรุ่งเช้าตนก็เอาเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพจำนวน 10 เม็ด ต่อมาก็มีชาวบ้านมาพบศพและเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาเรียกตัวไปสอบปากคำทุกวันจำนนด้วยพยานและหลักฐานจึงได้ยอมรับสารภาพว่าร่วมกับ นายภาณุวัฒน์ ลงมือฆ่าชิงทรัพย์ พระเกตุ ดังกล่าว
ทางด้าน นายภาณุวัฒน์ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบสวนตามคำให้การซัดทอดของ นายพุทธกาล เบื้องต้นยังไม่ยอมให้การที่เป็นประโยชน์และยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนศาลเชื่อว่า นายภาณุวัฒน์ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือร่วมกันลงมือก่อเหตุจริงจึงได้อนุมัติหมายจับทั้ง นายภาณุวัฒน์ และ นายพุทธกาล ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวเป็นคดีที่สะเทือนขวัญสำหรับประชาชนในพื้นที่ และประชาชนที่ได้ทราบข่าวเนื่องจากผู้ถูกกระทำเป็นพระสงฆ์ที่เดินทางมาธุดงค์จากต่างจังหวัด แต่ต้องมาพบกับจุดจบจากน้ำมือของกลุ่มผู้เสพยาบ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกระดับชั้นให้ความสนใจเร่งรัดติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุดซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เวลาเพียง 4 วันก็สามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับได้อย่างรวดเร็ว