ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) จับอดีตตำรวจร่วมกับพวกลักลอบขนยาบ้ากว่า 1,200,000 เม็ด กัญชาอีก 1,100 กิโลกรัม จากประเทศลาวเข้าไทยก่อนส่งขายพื้นที่ภาคใต้
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการจับกุม นาย ประหยัด โพธิ์หล้า อายุ 42 ปี ชาว จ.หนองคาย, นาย มงคล ภูมิพัฒน์ อายุ 51 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ,นาย สมบัติ โพธิ์หล้าอายุ 54 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ และ นาย จักรี ประเสริฐวงษา อายุ 32 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ ซึ่งถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุมพร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 1,200,000 เม็ด และกัญชาอัดแท่งหนักประมาณ 1,100 กิโลกรัม
โดยการจับกุมเกิดขึ้นหลังจากตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดรายใหญ่ซึ่งเป็นอดีตตำรวจรับจ้างจากนายทุนชาวลาวลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากฝั่งประเทศลาวเข้ามาส่งจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ เจ้าหน้าที่จึงตั้งด่านตรวจ ที่ถนนสายเพชรเกษม ขาล่องใต้ ม.3 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กระทั่งเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบรถยนต์ตรงตามที่สายลับแจ้งข่าวมา จึงแสดงตัวขอตรวจค้นจับกุมแต่คนร้ายเกิดไหวตัวพยามขับรถหนีการจับกุมจนเกิดอุบัติเหตุตกลงไหล่ทาง ตำรวจจึงควบตัวนาย ประหยัดและนาย มงคล ไว้ได้ พร้อมยาเสพติดที่บรรทุกมาเต็มคันรถ
หลังจากนั้นได้สอบสวนขยายผล โดยทั้งสองรับสารภาพ ว่าได้รับการว่าจ้างจาก เอเย่นต์รายใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสานสั่งให้ไปส่งให้กับลูกค้าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยคิดเป็นเที่ยวละ 300,000 – 500,000 บาทไปส่งมอบให้กับลูกค้าเพื่อที่จะลำเลียงส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่อไป โดยมีนายสมบัติ และนายจักรี ร่วมอยู่ในขบวนการ ซึ่งตำรวจได้ตามจับเพิ่มเติมได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี
จากการตรวจสอบประวัติของนายประหยัด พบว่าเป็นอดีตตำรวจยศ จ่าสิบตำรวจ เคยสังกัด สภ.โพนพิสัย เคยถูกจับในข้อหาลักลอบขนย้ายตัวนิ่มซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเมื่อปี 2552 ที่ จังหวัดเพชรบุรี จึงถูกออกจากราชการ และเมื่อพ้นโทษออกมาก็เข้าไปพัวพันกับการค้ายาเสพติด