ผบช.น. ชี้กรณีไฟไหม้สะพานไทย-เบลเยียม ยังดำเนินคดีกับใครไม่ได้ต้องรอผลการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุเช่นเดียวกับเหตุไฟไหม้สะพานไทย-ญี่ปุ่น ด้านผู้ต้องขังเสียชีวิตที่ สน.บางนา ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
8 มี.ค.60 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าไฟไหม้สะพานไทย-เบลเยียม ว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมฝ่ายสืบสวน บก.น.5 กำลังเร่งติดตามหาข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ส่วนหลักฐานอื่น ๆ กำลังลังรอผลการพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวผู้ที่ออกจากสะพานดังกล่าวเป็นคนสุดท้าย อีกทั้งตรวจพิสูจน์หลักฐานว่าจะดำเนินคดีกับใครหรือไม่ หากผลการตรวจสอบนั้นมาจากอุบัติเหตุจริงก็จะไม่มีผู้กระทำความผิดทางอาญา แต่หากเกิดจากความประมาทหรือมีการจงใจในการวางเพลิงในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเร็ว
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวถึงสะพานไทย-ญี่ปุ่น ใกล้แยกสามย่านถนนพระราม 4 ที่ถูกไฟไหม้เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (7 มี.ค.) อีกด้วย ว่า ล่าสุดตอนนี้ไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากการวางเพลิงหรือไม่เพราะทางกล้องวงจรปิดนั้นไม่สามารถระบุภาพได้ชัดเจน เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน เร่งดำเนินการคดีดั่งกล่าว ตรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุ การเกิดเพลิงไหม้พร้อมสรุปผลการตรวจสอบโดยเร็ว ซึ่งตอนนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงกัน ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์อีกสักระยะ หากจะออกหมายจับบุคคลตามภาพที่มีอยู่ตอนนี้ อาจดูว่าทำเกินกว่าเหตุ จึงต้องรอผลทางวิทยาศาสตร์ เพื่อปราศจากข้อสงสัย
ส่วนกรณีที่ นายสิทธ์สวัสดิ์ เอี่ยมลาภะ อายุ 21 ปี เสียชีวิตในห้องขัง สน.บางนา ภายหลังตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงนั้นพล.ต.ท.ศานิตย์ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะทางญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งยอมรับว่าทางตำรวจไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยหลังผู้ตายฟุบลงกับโต๊ะจุดตรวจ จึงไม่สามารถแยกออกได้ว่ามาจากสาเหตุใด ในกรณีนี้ตนมองว่าผู้เสียชีวิตก็มีญาติมากับรถยนต์ด้วย เมื่อถึงด่านตรวจควรแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าผู้ขับขี่มีอาการเป็นอย่างไรเพื่อจะได้นำส่งแพทย์ช่วยเหลือได้ทันท่วงที
เบื้องต้นได้สั่งการไปยัง 88 สน. ที่ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ให้ตรวจสอบผู้ขับขี่รถยนต์ หากพบมีอาการเมาสุราหรือหมดสติจนไม่สามารถขับต่อไปได้ให้รีบส่งโรงพยาบาลเพื่อวินิจฉัยอาการก่อน ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในกรณีนี้ต้องรอผลจากทางนิติเวชมาประกอบซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการตรวจอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุของหารเสียชีวิตว่าเกิดจากข้อบกพร่องของทางตำรวจหรือไม่