ผ่าอาณาจักร ผลิตภันฑ์เสริมความงาม “ตลาดใหม่ดอนเมือง” เม็ดเงินเข้ามหาศาล แจงงบขาดทุน จงใจเลี่ยงภาษีหรือไม่ เรื่องนี้อาจร้อนถึงกรมสรรพากรเข้าตรวจสอบ
ตลาดใหม่ดอนเมือง บนพื้นที่กว่า 18 ไร่ ถนนวิภาวดี ทำเลทองถูกระบุเป็นแลนด์มาร์ค ของคนในวงการธุรกิจเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เป็นทั้งแหล่งผลิต ใครหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าราคาซื้อขายในที่ดังกล่าวมีมูลค่าถึง ตารางวาล่ะ 300,000 บาท เป็นพื้นที่ “ราชพัสดุ” ที่กรมธนารักษ์ ดูแลอยู่ ปล่อยให้ทางบริษัทฯ ที่บริหารตลาดใหม่ดอนเมือง เช่าเพียงเดือนล่ะ 63,000 บาท หรือ 756,000 บาท ต่อปี
ก่อนถูกสร้างเป็น อาคารพาณิชย์ 279 ยูนิต และ ร้านค้า กว่า 139 ยูนิต เพื่อปล่อยให้ประชนเข้าจับจองทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม โดยมีอัตราค่าเช่าอาคารพาณิชย์ขั้นต่ำ 20,000 บาท อัตราค่าเช่าร้านค้า ภายในอาคารแอร์พอร์ต ขั้นต่ำ 4,500 บาท ต่อยูนิต
รวมค่าเฉลี่ยแล้ว สร้างรายได้ 8.2 ล้านบาท ต่อเดือน กว่า 99 ล้านบาท ต่อปี เป็นขั้นต่ำ ดังนั้นหักลบกับค่าเช่าแล้ว บริษัทฯทำกำไรได้มากกว่า 98 ล้านบาทต่อปี เมื่อหักลบกับค่าเช่า ที่เสียให้กับกรมธนารักษ์
นอกจากนี้ ยังพบว่า….ทางผู้ดูแลตลาดได้เรียกเก็บเงินจากส่วนอื่นอีก เช่นค่าสวนกลาง 500 – 1,000 บาทต่อเดือน และค่าสนับสนุน 500 – 3,000 บาทต่อเดือน ที่ร้านค้าต้องจ่ายส่วนนี้ โดยเฉลี่ย มีเงินเพิ่มกว่า 7แสน บาทต่อเดือน มากกว่า 9.3 ล้านบาทต่อปี
แต่ที่หน้าแปลก บริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง แจงในงบดุลบัญชี ขาดทุน
โดยระบุในงบของบริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด ที่จด จดทะเบียน 18 ม.ค.2533
งบการเงิน 2559 (หน่วย:ล้านบาท)
สินทรัพย์ 292
หนี้สิน 412
รายได้ 25.5
ขาดทุนสุทธิ 3.69
***ขาดทุนสะสม 123
จึงเกิดคำถาม…ว่าทางบริษัท จงใจเลี่ยงภาษีหรือไม่ และ ค่าสนับสนุน คือ ส่วย หรือไม่
โดยทางด้าน พ.ต.ท.สัทธนะ ประยูรรัตน์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาบริษัทฯ กล่าวว่า “ผมไม่ได้เก็บส่วย ไม่ใช่มาเฟีย อย่ายัดเยียดสิ่งเหล่านี้ให้กับผม” สำหรับเล่นหนังสือที่นำมาแสดงต่อสือมวนชนนั้น ยืนยันว่าเป็นเงินค่าสนับสนุนของบริษัท ไม่ใช่ส่วย เพื่อนำมาดูแลสถานที่ทั้ง ด้านการรักษาความปลอดภัย และค่าอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยผู้เช่าต่างยินยอมและเต็มใจมอบให้โดยไม่ได้มีการบังคับ ในราคา 500-1,500 บาท