มือปืนควบเก๋งบุกยิงถล่ม “ฟอร์ด นาท่อม” ตายสยองคาบ้านขณะก่อไฟให้สุนัข เชื่อปมขัดแย้งธุรกิจ -ฆ่าตัดตอน
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 27 ก.ย.61 ร.ต.อ.พงษ์วุฒิ วุฒิพงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่หน้าบ้านเลขที่ 133 หมู่ 12 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา ปัญญาเลิศ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ นำกำลังตำรวจชุดสอบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ทุ่งใหญ่ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยช้างเผือกรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงที่หน้าบ้านเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายภักดี ต่างสี หรือ “ฟอร์ด นาท่อม” อายุ 38 ปี อยู่บ้านที่เกิดเหตุนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าเต็มหน้าอกจำนวน 9 รู ทะลุหลัง 4รู อยู่ในชุดนุ่งผ้าขาวม้าลายสก๊อตสีแดง-ขาว ไม่สวมเสื้อ ที่ฝาบ้านมีรอยกระสุนเจาะ 4 จุด ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบหัวกระสุนตกอยู่ 1 หัว หมอนรองกระสุน 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายภักดี หรือที่รู้จักกันในนาม “ฟอร์ด นาท่อม” มีประวัติเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฏหมาย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติดมาแล้ว และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมากำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เข้าไปทำการปิดล้อมที่บ้านเพื่อตรวจสอบ แต่ปรากฏว่านายภักดีฯ ไหวตัวได้วิ่งหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวในสวนยางพารา ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามค้นหาแต่ไม่พบ ทำให้นายภักดีฯ รอดพ้นจากการจับกุมไปได้
ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายภักดี หรือ “ฟอร์ด นาท่อม” กำลังก่อไปให้สุนัขที่หน้าบ้านที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ผ่านหน้าบ้านอย่างช้าๆ ก่อนคนที่อยู่ในรถเปิดกระจกลงแล้วใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่ร่างนายถักดี หรือ “ฟอร์ด นาท่อม” จำนวน 1 นัด กระสุนเจาะเต็มหน้าอกจนหงายท้องตายคาที่ ก่อนคนร้ายจะเร่งเครื่องรถขับหลบหนีไปทันที
ส่วนสาเหตุทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิฐานว่าน่าจะมาจากขัดแย้งเรื่องธุรกิจไม่เปิดเผย ถูกเครือข่ายยาเสพติดตามเช็คบิลเพื่อเป็นการตัดตอนหรือฆ่าปิดปากไม่ให้โยงถึงผู้ร่วมขบวนการรายอื่น โดยส่งมือปืนตามไปยิงถึงบ้านดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และหลังจากชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้วจึงมอบให้กับญาตินำไปจัดการตามประเพณีต่อไปด้วย