รวบแล้ว! ตำรวจกาฬสินธุ์บุกจับตัว “ไอ้ปั้ม” มือปืนยิงโจ๋16ดับ อ้างป้องกันตัว เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ตายเข้ามาหาเรื่องถึงในบ้าน ขณะที่ตำรวจเร่งนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จนเกิดเหตุชุลมุน แต่ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
เกิดเหตุชุลมุนหลังจากตำรวจภูธรกาฬสินธุ์ คุมตัวนายกัมปนาท ไชยโชค หรือ ปั้ม อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาใช้ปืนยิงนายณรงค์ฤทธิ์ แก้วฝ่ายนอก อายุ 16 ปี เสียชีวิต เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง กว่า 100 นาย เนื่องจากมีญาติผู้เสียชีวิตที่มามุ่งดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ตำรวจทำแผนเรียบร้อยได้นำตัว นายกัมปนาท ขึ้นรถ โดยกลุ่มญาติผู้ตาย และกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่พอใจได้พากันกรูเข้าไปจะทำร้าย แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในที่สุด
โดยการทำแผนนั้น ทางตำรวจได้ให้ผู้ต้องหาสวมหมวกกันน็อค และเสื้อเกาะ ไปยังจุดเกิดเหตุในบ้านหนองแข้ ตำบลดงมูล ซึ่งเป็นบ้านของแฟนนายกัมปนาท ซึ่งอ้างว่าในวันเกิดเหตุ “นายปั๊กกี้” น้องชายของผู้ต้องหา ได้วิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือที่บ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากกลุ่มผู้ตายไม่พอใจที่นายปั๊กกี้ บิดรถจักรยานยนต์เสียงดัง กลุ่มผู้ตายจึงได้ยกพวกขี่รถจักรยานยนต์ กว่า 10 คัน อีกทั้งวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้เตรียมทั้งมีด เหล็กแป๊บ ตรงเข้ามาทำร้ายนายปั๊กกี้ ถึงในบ้าน ก่อนที่จะตัดสินใจไปหยิบปืนที่อยู่ในบ้านยิงใส่กลุ่มผู้ตาย 1 นัด จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่มาหาเรื่องก็หลบหนี ส่วนตนเองกลัวความผิดจึงได้หลบหนีเช่นกัน
ด้าน พลตำรวจตรี มนตรี จรัลพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การเข้าจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการกดดัน และสืบสวนหาข่าวของตำรวจชุดสืบสวน โดยเมื่อช่วงเช้านี้ชุดจับกุมได้นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมตัวนายกัมปนาท ซึ่งหลบหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านของเพื่อน ภายในสวนยางบ้านดงสมบูรณ์ ตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้จู่โจมเข้าจับกุมโดยพบคนร้ายนอนหลับอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจสอบตำรวจพบปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด จุด 38 ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเก็บไว้ภายในลิ้นชักโต๊ะทำงาน และกระสุนปืนขนาด จุด 38 อีกจำนวนหนึ่ง โทรศัพท์มือถือที่ห่อกระดาษฟอย เพื่อป้องกันคลื่นโทรศัพท์มือถือ และจากการสอบสวนนายกัมปนาท ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ยิงต้องการป้องกัน เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจาก ผู้ต้องหาพึ่งจะพ้นโทษในคดียาเสพติดได้ไม่นาน อีกทั้งในการข่าวทางลับก็พบว่ายังพัวพันยาเสพติดจัดเป็นขาใหญ่ระดับตำบล
ทั้งนี้ ทางตำรวจได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ,พยามฆ่าผู้อื่น ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พกพาอาวุธปืนและยิงปืนในเมืองหมู่บ้านหรือชุมชนโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวกลับโรงพักหนองกุงศรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป