จากกรณีมีนักท่องเที่ยวจากกรณีมีนักท่องเที่ยวพบศพหญิงสาวถูกฆ่า และนำศพมาฝังไว้ริมชายหาดบ้านละไม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐาน และได้เบาะแสสำคัญ ว่าอาจจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ โดยคาดว่าผู้ลงมือน่าจะเป็นแรงงานชายชาวพม่า 2 คนที่ยวพบศพหญิงสาวถูกฆ่า และนำศพมาฝั่งไว้ริมชายหาดบ้านละไม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐาน และได้เบาะแสสำคัญ ว่าอาจจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ โดยคาดว่าผู้ลงมือน่าจะเป็นแรงงานชายชาวพม่า 2 คน
พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ ผกก.สภ.บ่อผุด ได้เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ บริเวณชายหาดบ้านละไมอีกครั้งในวันนี้เพื่อหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทราบว่าผู้เสียชีวิต ชื่อ นางลูซี หรือบางคนเรียก “ยายช้าง” อายุประมาณ 50 ปี เป็นคนสัญชาติเมียนมา เชื้อสายเนปาล โดยในวันนี้ได้มีการเก็บข้อมูลหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะชุดสืบสวน ร่วมไปประชุมวางแนวทางสืบหาตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนหาข้อมูลผู้เสียชีวิตว่า พักอาศัยอยู่กับใครบ้าง และชนวนเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งปมฆาตกรรมในครั้งนี้ไปที่ประเด็นการชิงทรัพย์ เนื่องจากข้อมูลพบว่าทรัพย์ที่เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทของผู้ตายที่ชาวบ้านเคยเห็นผู้ตายห้อยอยู่ได้หายไป
ทางด้าน พ.ต.ท.ศิรชัย เกิดศรี รอง ผกก.สืบสวน สภ.บ่อผุด เปิดเผยว่า จากแนวทางการสืบสวน เจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุคงจะอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก ซึ่งหลังจากลงพื้นที่สืบหาข้อมูลทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้พยายามตามติดตัวชายชาวเมียนมา 2 คน คือนาย อาว และ นาย ทุย ที่เคยทำงานอยู่บริเวณดังกล่าว แต่ได้ลาออก และเดินทางออกจากประเทศไทย กลับไปยังประเทศเมียนมา ผ่านทางชายแดนแม่สอดไปแล้วในวันนี้
ในวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปสอบถาม ป้าแป๋ว ซึ่งมีอาชีพบริการทำเล็บให้แก่ชาวต่างชาติที่มาพักผ่อนในบริเวณดังกล่าว ทำให้ทราบว่า นางลูซี่ เดินทางมาอยู่เกาะสมุยได้ประมาณ 15 ปี โดยก่อนหน้านี้นางลูซี่ เป็นคนสติปกติ แต่หลังจากที่เลิกรากับแฟนชาวต่างชาติ นางลูซี่ ก็เริ่มมีอาการสติไม่ปกติ เกือบทุกวัน นางลูซี่จะชอบมาเดินเล่นริมชายหาด และในช่วงที่อากาศร้อนก็จะชอบด่าคนที่เดินผ่านไปมา แต่นักท่องเที่ยวหลายคนก็ไม่ถือสา กลับให้เงินนางลูซี่ ครั้งละ 100-200 บาท อยู่เป็นประจำ เพราะเห็นว่าเป็นคนน่าสงสาร จนนางลูซี่ มีเงินเก็บสะสม สามารถนำไปซื้อทองคำหนัก 1 บาทมาใส่ จนเป็นที่ล่อตาล่อใจฆาตกร