นักลงทุน ตื่นตระหนก หลังกทม. โดนวางบึ้ม รวมกว่า 7 จุด ทำให้ดัชนีหุ้นไทยในช่วงเช้านี้ ลดลงทันที 18.72 จุด อยู่ที่ 1681.27 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ 1675.58 จุด ลดลง 24.17 จุด ก่อนจะเริ่มรีบาวน์ขึ้นมาปิดตัวช่วงเช้าที่ 1678.79 จุด ลดลง 20.96 จุด
ตลอดช่วงเย็นวันที่ 1 ถึงช่วงเที่ยงๆวันที่ 2 สิงหาคม เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมกว่า 7 จุด แน่นอนว่าสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนและนักลงทุนเป็นอย่างมาก บวกกับปัจจัยภายนอกเมื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน 10% ในวันที่ 1 กันยายนนี้ เป็นมูลค่ากว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสัญญาณของสงครามการค้ารอบใหม่ ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ทำให้ดัชนีหุ้นไทยในช่วงเช้านี้ ลดลงทันที 18.72 จุด อยู่ที่ 1681.27 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ 1675.58 จุด ลดลง 24.17 จุด ก่อนจะเริ่มรีบาวน์ขึ้นมาปิดตัวช่วงเช้าที่ 1678.79 จุด ลดลง 20.96 จุด
แม้ว่าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ส่งผลต่อตลาดหลักทรัพย์อย่างหนักหน่วง แต่เมื่อดูอันดับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด พบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพลังงาน ซึ่งเกิดจากการที่ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงต่อเนื่อง ที่วันนี้เริ่มมีการรีบาวนด์ขึ้นมาบ้างแล้ว และบางส่วนเป็นหลักทรัพย์ในกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งทำให้พบว่า สถานการณ์ความไม่สงบในกรุงเทพมหานคร เป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ในวันนี้
สำหรับสถานการณ์ตลาดหุ้นต่อจากนี้ ภายในประเทศ ด้านการเมืองให้ติดตามมาตรการของรัฐบาลในเรื่องความมั่นคง จากเหตุการความไม่สงบในประเทศ ทางด้านเศรษฐกิจให้ติดตามมาตรการลดหย่อนภาษีจาก LTF ที่จะหมดอายุในสิ้นปีนี้ สำหรับต่างประเทศให้ติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐอเมริกา (non-farm) ที่จะมีการประกาศทุกวันศุกร์แรกของเดือน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลในระยะสั้น และ สถานการณ์สงครามทางการค้า ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา รวมถึงผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกอีกด้วย
อ่านข่าว Bright Today