ที่ประชุมร่วมเพื่อแก้ปัญหานักศึกษาสองสถาบันคู่อริย่านปทุมวันตีกัน ออกมาตการเข้ม ทั้งระยะสั้น และระยะยาว เน้นกำหนดพื้นที่สีแดงห้ามเข้า และ ละลายพฤติกรรมให้หันมารักสามัคคีกัน
ว่าที่ รต.จรูญ ชูลาภ นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เปิดเผยว่า ในที่ประชุมได้กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหา 2 ระยะ คือ ระยะสั้น ที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน เช่น การออกข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร กำหนดจุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาทและเผชิญหน้าของทั้ง 2 สถาบัน เช่น สี่แยกปทุมวัน มาบุญครอง สนามกีฬาแห่งชาติ และตามตรอกซอกซอย รวมถึงแหล่งรวมตัวอื่นๆ โดยจะส่งตำรวจและอาจารย์เข้าไปดูแล ตรวจตรา ในช่วงที่นักศึกษาเดินทางมาเรียนและเดินทางกลับ พร้อมให้แต่ละสถาบันกลับไปทำความเข้าใจกับเด็กของตน ห้ามเข้าไปในโซนเสี่ยงพื้นที่สีแดง โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งของอีกสถาบันเด็ดขาด หากฝ่าฝืนเข้าไปถือว่ามีความผิด โทษตั้งแต่ ว่ากล่าวตักเตือนจนถึงไล่ออก และสั่งห้ามเด็กสวมเครื่องแบบของสถาบัน หรือสิ่งที่บ่งบอกตัวตนว่าสังกัดสถาบันไหน เวลาอยู่นอกสถานศึกษา
ส่วนมาตรการระยะยาว จะตั้งคณะกรรมการสานสัมพันธ์ โดยมี ตัวแทน 2 สถาบัน ตำรวจ ชุมชน ในการเข้ามาวางแนวทางป้องกันเฝ้าระวัง และกำหนดกิจกรรมสานสัมพันธ์ เช่น จิตอาสา เพื่อละลายพฤติกรรม ให้มีความรัก ความสามัคคีกัน เป็นประจำทุกเดือน ทั้งนี้ ทางปทุมวันได้มอบให้นายกสมาคมศิษย์เก่าทำความเข้าใจกับรุ่นพี่และรุ่นน้องให้ถูกต้อง พร้อมกับสะท้อนปัญหา หากทะเลาะกันจะส่งผลต่ออนาคตอย่างไรกับตัวนักศึกษา และยังเก็บข้อมูลรุ่นพี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อทำประวัติและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ทางด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ย้ำว่า ปัญหาทั้งหมดจะคลี่คลายได้ ท้ายที่สุดขึ้นอยู่กับตัวเด็กเอง และมาตรการป้องกันควรทำต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ชั่วครั้งชั่วคราว ส่วนความคืบหน้าการจับกุม นายศราวุธ โซ๊ะประสิทธ์ อายุ 26 ปี มือมีด ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเร่งติดตามมาดำเนินคดี ซึ่งแม่ของผู้ต้องหาเข้ามาพบตำรวจแล้ว โดยยืนยันว่า ตอนนี้ยังติดต่อลูกไม่ได้ หากติดต่อได้จะนำมามอบตัว ต่อสู้คดี อย่างไรก็ตาม สำหรับนักศึกษาที่ร่วมทะเลาะวิวาทครั้งนี้ ตำรวจจะออกหมายจับเพิ่มอีก 3-4 ราย ในข้อหาตัวการร่วม รวมถึงผู้ที่ให้ที่พักพิงกับผู้ต้องหาด้วย