ความคืบหน้าในคดีสะเทือนขวัญคนในสังคม กรณีมีชาวบ้านเกาะแรดรุมโทรมเด็กหญิงวัย 14 ปี ที่จังหวัดพังงา ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 11 คน โดยในวันนี้ตำรวจได้นำผู้ต้องหา 9 คน มาให้เหยื่อที่ถูกรุมโทรมชี้ตัวที่ สภ.เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหา 9 คน จากที่ออกหมายจับไป 11 คน ประกอบด้วย นายวรชิต คงบุตร (อีฉา) อายุ 39 ปี นายบุญพจน์ นนทรีย์ (อาหลี) 33 ปี นายชาติชาย ศรีรัตน์ (เล็ก) อายุ 37 ปี (ผู้ต้องหารายที่ 1-3 ที่อยู่ในระหว่างประกันตัวคดีเก่า) พร้อมด้วย นายเฉลิม สามิน (หวาบำ) อายุ 69 ปี นายสุชีพ สุเมนร์ (หว้าเดช) อายุ 55 ปี นายนัฐวุฒิ บุตร์น้อย (กาหรีม) อายุ 27 ปี และนายกีรติ สุเมนร์ (อาหมาด) อายุ 30 ปี (ผู้ต้องหารายที่ 4-8) นายสายันต์ สุเมนร์ (ย้อย) อายุ 43 ปี นายนาวิก จารึก (หวาหวี) อายุ 53 ปี (ผู้ต้องหารายที่ 9-11) เดินทางมายัง สภ.เขาหลัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า เพื่อให้ ด.ญ.เอ นามสมมุติ อายุ 14 ปี ทำการชี้ตัวเป็นครั้งแรก โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงได้ออกมายังห้องสอบสวน ส่วนนายธวัชชัย เถากู (ยูนุส) อายุ 34 ปี และ นายรังสันติ์ ชายเลี้ยง (สันติ์) อายุ 23 ปี ยังอยู่ในเรือนจำจังหวัดพังงา จึงไม่ได้มาชี้ตัว
ทั้งนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวประชาชนกว่า 30 คน เข้าปะปนกับผู้ต้องหา จำนวน 9 ราย โดยให้เข้าไปในห้องเป็นชุดๆ เพื่อให้เหยื่อรุมโทรมชี้ตัว ปรากฎว่า การชี้ตัวผู้ต้องหาจำนวน 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้ง จะมีประชาชนปะปนเข้าไปกับผู้กระทำความผิดรอบละ 5 คน ซึ่งเหยื่อได้ชี้ตัวถูกต้อง ทั้ง 9 คน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ไปที่ห้องสอบสวน เพื่อทำการลงลายมือชื่อ แต่ผู้ต้องหาทั้ง 9 ได้ปฏิเสธการลงลายมือชื่อ แต่ขอลงบันทึกประจำวันถึงสาเหตุที่ไม่ลงลายมือชื่อยอมรับการชี้ตัวในครั้งนี้
ด้านนายสรรเพชร ทิพย์มนเทียน สำนักงานสรรเพชรทนายความ (ทนายความของผู้ต้องหาคนที่ 4-8) เปิดเผยว่า ผู้ถูกกล่าวหา ได้เตรียมคนที่มีลักษณะใกล้เคียง ไปร่วมในการชี้ตัว แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีการซ้อนแผนหลายชั้น จึงทำให้บุคคลกระจัดกระจายไปหมด ทำให้ในการชี้ตัวมีเพียงคนของเจ้าหน้าที่ ที่ทำการจัดหามา ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ผู้ที่ปะปนเข้าไปในกระบวนการชี้ตัว ไม่ได้มีการแต่งตัวให้คล้ายกันกับผู้ถูกกล่าวหา ไม่ได้เลือกคนที่มีอายุใกล้เคียงกันเข้าไปในห้องชี้ตัว บางคนเข้าไปหลายรอบ รวมทั้งมีการเรียกชื่อผู้ที่เข้าไปแต่ไม่มีการเรียกชื่อผู้ถูกกล่าวหา จึงทำให้เอื้อต่อผู้ชี้ตัวและสามารถชี้ได้ถูกต้องทั้ง 2 ครั้ง
ทนายสรรเพชร กล่าวว่า เมื่อตนเห็นว่าเหตุการณ์เป็นเช่นนี้จึงได้แนะนำให้ ลูกความของตนปฏิเสธการลงลายมือชื่อยอมรับการชี้ตัว แต่ให้ลงบันทึกประจำวันถึงสาเหตุของการคัดค้านการลงลายมือชื่อแทน ซึ่งพบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 9 ได้ปรึกษากัน และใช้แนวทางดังกล่าว
ในขณะที่ พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผบก.ภ.จว.พังงา กล่าวว่า กระบวนการชี้ตัวในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำตามขั้นตอน และกระบวนการมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการหาผู้ที่มีอายุใกล้เคียงกัน บุคคลที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน มาร่วมกระบวนการ ส่วนสาเหตุที่มีบางคนวนซ้ำเข้ามาในกระบวนการชี้ตัวนั้น ก็เป็นตามขั้นตอนปกติที่จะต้องวนไปวนมา ซึ่งหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ก็จะทำการเก็บหาหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนจะสรุปสำนวนส่งให้อัยการ
