ถึงแม้ นายทวีศักดิ์ งามสนิท ผู้ก่อเหตุ ใช้น้ำกรด สาด นางสาวสายใจ ให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ดำเนินตามขบวนการตามกฏหมายไปแล้วก็ตาม แต่บาดแผลตามร่างกายนั้นยังคงอยู่สร้างบาดแผลภายในหัวใจให้กับนางสาวสายใจ วันนี้ คุณณัฐพงษ์ เรียบสันเทยะ ผู้สื่อข่าวของเราเดินทางเข้าเยี่ยม นางสาวสายใจอย่างใกล้ชิด อาการของเธอล่าสุดนั้นจะเป็นอย่างไรติดตามได้จากรายงาน
ผ่านมา 7 วันกับฝันร้ายที่นางสาวสายใจ ต้องดำเนินชีวิตอยู่ในสภาพเหมือนตายทั้งเป็น หลังแผลพลุพองจากน้ำกรดที่อดีตคนรักบุกมาสาดอย่างอุกอาจขณะเธอทำงานอยู่กลางห้างสรรพสินค้า
ด้วยฤทธิ์ของน้ำกรด ทำให้ใบหน้าเธอเสียโฉมและเกือบตาบอด เพราะน้ำกรดได้ดึงหนังกำพร้าที่ใบหน้าจนทำให้เปลือกตาตึง มีน้ำตาไหลตลอดเวลา กระจกตาไม่มี จนทำให้เธอมองเห็นได้อย่างเลือนลาง ซึ่งนั่นคือข้อกังวลของเธอที่อยากให้หมอรักษา ให้เธอกลับมามองเห็นได้อย่างปกติ แม้จะ
ต้องแลกมาด้วยความผิดปกติของร่างกายส่วนอื่นก็ตาม ส่วนแนวทางการรักษาของแพทย์ล่าสุด ก็ยังคงต้องหมั่นล้างแผลให้เธอเพื่อไม่ให้แผลติดเชื้อ และหยอดน้ำตาเทียมทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อรักษาแก้วตา
แต่สิ่งที่เธอและครอบครัวกังวลนอกจากการรักษา คือการค่าใช้จ่าย ที่ครอบครัวต้องจ่ายส่วนต่างจากการซื้อยาหยอดตาวันละพันกว่าบาท เพราะหน่วยงานทางด้านพิทักษ์เด็กและสตรี ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ เนื่องจากตำรวจได้แจ้งข้อหานายทวีศักดิ์ งามสนิท อดีตคนรักของเธอเพียงแค่ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะตามกฏหมายสิทธิ์จะคุ้มครองเหยื่อก็ต่อเมื่อถูกผู้ต้องหาพยายามฆ่า นี่จึงเป็นที่มาที่น้องสาวของนางสาวสายใจต้องออกมาขอความยุติธรรมอีกรอบ เพราะทุกวันนี้เธอไม่ต้องการสิ่งใดจากฝั่งคู่กรณี แต่สิ่งที่ครอบครัวต้องการคือการให้นางสาวสายใจสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติเหมือนเคยก็พอ