หลังจาก นายทิษณุ โถนารักษ์ หรือ “ชิต สายเบิร์น” เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังก่อเหตุยิงหนุ่มนักศึกษาก่อนฉุดสาวขืนใจแล้วปล่อยทิ้งในป่า และหลบหนีนานถึง 3 วัน วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้าน โดยงานนี้ “ชิต สายเบิร์น” โดนหนักถึง 7 ข้อหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใส่หมวกนิรภัยให้ นายทิษณุ โถนารักษ์ หรือ “ชิต สายเบิร์น” เพื่อความปลอดภัย หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์และทหารนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารเพิ่มเติมบริเวณสามแยกทางเข้ามหาวิทยาลัยซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีชาวบ้านและนักศึกษาที่มุงดูเหตุการณ์รุมตะโกนสาปแช่งในการก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งการทำแผนดังกล่าวต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ที่คุมตัวไปชี้จุดและทำแผนเบื้องต้นตามเส้นทางถนนตั้งแต่ อ.สมเด็จ จนถึง จ.สกลนคร ที่คนร้ายฉุดนักศึกษาขึ้นรถแล้วขับไปตามถนนระยะทางกว่า 80 กิโลเมตร
นายทิษณุ ให้การรับสารภาพว่า หลังจากทะเลาะกับภรรยาได้เสพยาบ้าพร้อมดื่มเหล้าขาวจนขาดสติก่อนขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ออกไปตามถนนสายต่าง ๆ เพื่อตะเวนหาเหยื่อที่จะฉุดไปข่มขืนตั้งแต่ อ.คำม่วง ไปตามเส้นทาง อ.สหัสขันธ์ เข้าตัวเมืองกาฬสินธุ์ ก่อนที่มุ่งหน้าไปยัง อ.สมเด็จ กระทั่งพบ 2 นักศึกษาที่ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากปั๊มน้ำมันบริเวณสามแยกไฟแดงทางเข้ามหาวิทยาลัยจึงเร่งเครื่องขับตามและขับปาดหน้า ยิงนักศึกษาชายแล้วฉุดตัวนักศึกษาผู้หญิงขึ้นรถกระบะ ในระหว่างทางได้นำเสื้อของเหยื่อมัดมือพร้อมใช้ปืนจี้บังคับให้ถอดเสื้อผ้าและลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่พร้อมเอาเงินเหยื่ออีก 3,000 บาทก่อนที่จะปล่อยตัวไป โดยระหว่างการปล่อยตัวให้โอกาสนักศึกษาสาวผู้เสียหายวิ่งหนี 10 วินาทีก่อนขับรถกลับบ้านและไปกรีดยางตามปกติ จนรู้ข่าวว่าถูกตามจับและกลัวว่าจะถูกตำรวจวิสามัญเลยเข้ามอบตัวเมื่อเช้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ด้าน พลตำรวจตรีมนตรี จรัลพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวนพร้อมฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์โดยแจ้งข้อหาทั้งพยายามฆ่า, ข่มขืน, พาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และข่มขืนกระทำชำเราโดยใช้กำลังประทุษร้าย และเพิ่มอีก 3 ข้อหา คือ ชิงทรัพย์, ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และกักขังหน่วงเหนี่ยว อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำและคำรับสารภาพเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าก่อเหตุเป็นครั้งแรก เพราะเท่าที่สอบถามหากทะเลาะกับภรรยาครั้งใดก็มักจะเสพยาและดื่มสุรารวมทั้งขับรถตระเวนออกจากบ้านทุกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสืบสวนต่อว่าเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้อีกหรือไม่
ส่วนความคืบหน้านักศึกษาชายที่ถูกยิง ตอนนี้อารการดีขึ้นตามลำดับแต่ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ต่อไป ซึ่งทางมหาวิทยาลัยจะออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมดเนื่องจากมีประกันสุขภาพนักศึกษา ส่วนนักศึกษาหญิงผู้เสียหายตอนนี้ยังเก็บตัวเงียบ เนื่องจากยังอยู่ในอาการหวาดผวาและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางญาติ เพื่อน ๆ และอาจารย์ทำได้เพียงคอยดูแลให้กำลังใจอย่างใกล้ชิดเท่านั้น