หลังเกิดเหตุสลดเมื่อแก๊งวัยรุ่นแทงนักศึกษา ม.ศิลปากร เพชรบุรี เสียชีวิต ล่าสุดตำรวจ สภ.ชะอำ จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 16 คนซึ่งเป็นลูกหลานนามสกุลดังทั้งทหาร ตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คหบดี เหลืออีก 3 รายกำลังติดตามตัว ปมเหตุคนตายไม่เกี่ยว ถูกแฟนใหม่แค้นตีฝากแฟนเก่า ด้านแม่ของผู้เสียชีวิตกลัวคดีไม่คืบหน้าและไม่ได้รับความเป็นธรรม
จากกรณีเมื่อกลางดึกวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นจำนวนกว่า 10 คน บุกรุกเข้าไปในหอพัก ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รุมทำร้ายใช้ไขควงแทงที่ศีรษะ นายธีรพงษ์ ฐิติญาน หรือปอน อายุ 24 ปี นักศึกษา ชั้นปีที่ 4 ม.ศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม และเพื่อนที่อยู่ด้วยกันอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บ และต่อมา นางอารีรัตน์ ชมโลก อายุ 50 ปี มารดาของผู้ตายได้นำศพ นายธีรพงษ์ กลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร และร้องเรียนต่อสื่อมวลชนในพื้นที่ ว่า ไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากกลุ่มคนร้ายเป็นลูกของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ทั้งทหาร ตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่น และคนในตระกูลดังของ จ.เพชรบุรี และประกาศจะไม่เผาศพ นายธีรพงษ์ จนกว่าคนร้ายจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและได้รับคำตัดสินจากศาลแล้ว ถ้ายังจับคนร้ายได้ไม่หมดก็จะขนศพไปประท้วงที่หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น
เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (5 มี.ค.60) พ.ต.อ.ภคิน ศิวเมธากุล ผกก.สภ.ชะอำ เปิดเผยความคืบหน้า ว่า หลังเกิดเหตุได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด อาทิ พยานบุคคล ภาพจากกล้องวงจรปิด และหลักฐานประกอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งหมด จนสามารถระบุผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 18 คน โดยวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมาได้ขอหมายศาลจังหวัดเพชรบุรีออกหมายจับ และจับกุม นายกรกนก หรืออาร์ต วรัญญสาธิต อายุ 23 ปี ในข้อหาข้อหาบุกรุกในยามวิกาล และร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนา จากนั้นได้ติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาสอบสวน เบื้องต้นมีผู้เดินทางมามอบตัวแล้วทั้งหมด 15 ราย เหลืออีก 3 ราย ซึ่งกำลังติดตามตัว โดยรายชื่อผู้ต้องหาทั้งหมดมีหลายคนที่มีนามสกุลเป็นที่รู้จักใน จ.เพชรบุรี ทั้งนายทหารชั้นผู้ใหญ่ นายตำรวจระดับรองผู้กำกับการในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และนักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รวมถึงคหบดีซึ่งมีฐานะร่ำรวยในพื้นที่ จ.เพชรบุรี
ส่วนพฤติกรรมการก่อเหตุ พ.ต.อ.ภคิน เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่า นายกรกนก (นายอาร์ต) ซึ่งเป็นผู้นำก่อเหตุต้องการบุกมาทำร้าย นายเอก (นามสมมติ) เพื่อนของผู้ตาย เนื่องจาก นายเอก เป็นอดีตแฟนของ น.ส.ทราย ซึ่งได้เลิกรากันไป และ น.ส.ทราย ไปมีแฟนใหม่ คือ นายอาร์ต ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ทราย ได้ไปพูดคุยกับ นายอาร์ต ถึงเรื่อง นายเอก ทำให้ นายอาร์ต ไม่พอใจโทรติดต่อ นายเอก และมีการพูดท้าทายจนลุแก่โทสะ วันเกิดเหตุนายอาร์ต ได้ชักชวนเพื่อนวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวรวม 18 คนขับรถยนต์มา 3 คันวนหา นายเอก ที่ร้านอาหารที่ นายเอก ทำงานอยู่แต่ไม่เจอจึงบุกเข้าไปในหอพักแต่ นายเอก ไม่อยู่ นายอาร์ต และวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวเห็น นายธีระพงษ์ ผู้ตายและเพื่อนอยู่ทั้งที่นายธีระพงษ์ไม่เคยรู้จักกับกลุ่มคนร้ายมาก่อน แต่เป็นเพื่อนกับ นายเอก ที่ต้องการบุกมาทำร้าย จึงตรงเข้าไปทำร้ายร่างกายใช้ไขควงแทงที่ศีรษะ นายธีระพงษ์ จนเสียชีวิต
พ.ต.อ.ภคิน กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้เป็นความแค้นที่เกิดจากเรื่องชู้สาวระหว่าง นายกรกนก กับ นายเอก ผู้ตายไม่เกี่ยวข้อง ยืนยันและให้ความมั่นใจได้ว่า คดีนี้จะได้รับความเป็นธรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาไม่ว่าคนทำจะเป็นลูกหลานผู้มีอิทธิพล นักการเมืองหรือคนมีเครื่องแบบก็ไม่สนใจ จะนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด ขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดไว้โดยละเอียดแน่นหนาพอสมควร ส่วนผู้ต้องหาจำนวน 18 คน ได้จับกุมและมามอบตัวแล้ว 15 คน ส่วนอีก 2 คนทราบตัวแล้วกำลังเดินทางมามอบตัว เหลือเพียง 1 คนที่ยังไม่ทราบชื่อแต่อยู่ในแนวทางสอบสวน คาดว่าจะได้ตัวทั้งหมดเร็ว ๆ นี้
“เบื้องต้นทั้งหมดให้การภาคเสธ รับในบางประเด็น บ้างอ้างว่าไปด้วยแต่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุ บ้างอ้างร่วมก่อเหตุแต่ทำร้ายผู้อื่นแต่ไม่ได้ทำร้ายผู้เสียชีวิต คดีนี้ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ เข้าควบคุม กำกับดูแล การสืบสวนสอบสวนอย่างใกล้ชิดแล้ว”
ส่วนที่บ้านของ นายธีระพงษ์ ในพื้นที่ ม.5 ต.ปากตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเป็นที่ตั้งงานบำเพ็ญกุศลศพ นายธีระพงษ์ นางอรุณี ดีสุวรรณ อายุ 52 ปี ป้าของ นายธีระพงษ์ ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว ว่า ตนเองติดตามสอบถามการดำเนินคดีจากตำรวจ สภ.ชะอำ ได้รับแจ้งความคืบหน้าเพียงว่า ขณะนี้ได้มีกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยเดินทางเข้ามอบตัวแล้ว 16 คน ตำรวจได้สอบปากคำแล้วปล่อยตัวไปเนื่องจากยังไม่มีการออกหมายจับ แต่รายละเอียดในสำนวนตำรวจไม่ได้เปิดเผย เมื่อสอบถามถึงหลักฐานในคดีที่สำคัญ อาทิ รถยนต์คันที่มือไขควงที่แทง นายธีระพงษ์ ซึ่งในกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ชัดเจนว่า เป็นรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ สีดำ ตำรวจอ้างว่ายังไม่สามารถนำเอารถคันดังกล่าวมาได้ทั้งที่รถคันดังกล่าวยังมีผู้พบเห็นวิ่งอยู่ใน อ.ชะอำ แทบทุกวัน อีกทั้งทราบว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวเป็นของนายตำรวจยศ พ.ต.ท. มีตำแหน่งเป็น รอง ผกก.โรงพักแห่งหนึ่งนอก จ.เพชรบุรี เมื่อมีข่าวออกไปอาจทำให้นายตำรวจคนดังกล่าวนำรถไปทำลายรอยนิ้วมือแฝง ถ้าได้รอยนิ้วมือจากในรถคันดังกล่าวจะทำให้มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้น แต่ในขณะนี้หลักฐานสำคัญที่จะมัดตัวผู้ต้องหากำลังถูกทำลายลงทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นธรรมที่กำลังเกิดขึ้น จึงขอเรียกร้องให้ ผู้มีอำนาจในสังคม ให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและเพื่อน ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คนด้วย เกรงว่าหลานชายของตนจะต้องเสียชีวิตฟรี ๆ แน่
ขณะที่เพื่อน ๆ ของผู้เสียชีวิต กล่าวถึงพฤติการณ์ความโหดของกลุ่มผู้ต้องหาอีก ว่า เป็นลูกของผู้มีอิทธิพลที่ต้องการเข้าไปสั่งสอนแต่ไม่เจอคู่อริจึงเข้ามาทำร้ายทุกคนที่ขวางหน้า นอกจากนั้น กลุ่มดังกล่าวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมมานานและก่อคดีนับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยถูกดำเนินคดีเนื่องจากบรรดาผู้ปกครองเข้ามาจัดการปัญหาจนทำให้ได้ใจ สร้างความหวาดกลัวแก่วัยรุ่นทั่วไปใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นอย่างมาก
ทางด้าน นางอารีรัตน์ ชมโลก แม่ของ นายธีระพงษ์ กล่าวทั้งน้ำตา ว่า รู้สึกกลัวมากว่าคดีจะไม่คืบหน้าและไมได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากทราบว่ากลุ่มคนร้ายมีทั้งเงิน อำนาจ และบารมี และอยากฝากถามไปยังพ่อแม่ของคนที่แทงลูกชายว่าถ้าสาเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับลูกของตนเองจะรู้สึกหรือทำอย่างไร ครอบครัวของตนหมดสิ้นทุกสิ่งที่ขาดลูกชายคนนี้ที่เป็นความหวังของครอบครัว ในช่วงที่เรียนก็ต้องกู้หนี้ยืมสิน และลูกชายของตนสัญญาว่าจะมาช่วยกันทำงานปลดหนี้เนื่องจากตนเองอายุมากแล้ว
